นางสาวธัญญศรัณ แสงทอง ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมการค้ายาสูบไทย เปิดเผยหลังกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (ปอศ.) เข้าจับกุมเจ้าของร้านขายบุหรี่เถื่อน 3 แห่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมยึดของกลาง บุหรี่ปลอมเครื่องหมายการค้าของการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) และบุหรี่ต่างประเทศที่ไม่ผ่านพิธีการศุลกากรยึดของกลางเกือบ 20,000 ซอง ว่า ขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ ปอศ. ลงพื้นที่ปราบปรามการค้าบุหรี่เถื่อนในนครศรีธรรมราช เพราะปัญหาบุหรี่เถื่อนสร้างความเสียหายรวมกว่า 10 ล้านบาท โดยรัฐก็ไม่ได้ภาษี เจ้าของแบรนด์ซึ่งก็คือ ยสท. ก็ขายของได้ลดลง รวมทั้งร้านค้าในพื้นที่ที่ขายสินค้าอย่างสุจริตก็ต้องขาดรายได้ ไม่มีลูกค้าเข้าร้าน
“สมาคมฯ ขอแสดงความขอบคุณไปยังกองบังคับการอำนวยการ ตำรวจภูธรภาค 9 ที่แจ้งผลการดำเนินงานสืบสวนปราบปรามการค้าบุหรี่หนีภาษีในพื้นที่ภาคใต้และให้คำมั่นว่าจะกวดขันในการสืบสวนจับกุมอย่างเคร่งครัดต่อไป ภายหลังที่สมาคมฯ ได้ทำหนังสือร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมไปยังเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้”
ก่อนหน้านี้ สมาคมฯ เคยออกมาให้ข้อมูลว่าความรุนแรงของบุหรี่เถื่อนเริ่มขยายตัวไปยังจังหวัดภาคใต้ตอนบน เช่น นครศรีธรรมราช ซึ่งมีการเปิดหน้าร้านแบบสแตนอโลนเพื่อขายบุหรี่เถื่อนมากขึ้น ร้านค้าเหล่านี้สังเกตได้ง่ายเพราะจะติดกระจกดำ มีลูกกรงและติดประกาศโฆษณาชัดเจนว่าขายบุหรี่ราคาถูก แต่ก็ยังคงทำการค้าขายได้โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
นางสาวธัญญศรัณ กล่าวต่อว่า สมาคมฯ ได้รับทราบจากสมาชิกว่าแม้เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่กวดขันปราบปรามบุหรี่เถื่อนอย่างเข้มงวด แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้เด็ดขาด ร้านค้าบุหรี่เถื่อนส่วนใหญ่ถูกจับไม่กี่วันก็สามารถกลับมาเปิดขายได้อีก เป็นแบบนี้เกือบทุกพื้นที่ทั้งในหาดใหญ่และสตูล วนลูปไม่จบสิ้น ทำให้ผู้ค้าที่ถูกกฎหมายเดือดร้อน
“จากข้อมูลของสมาชิกสมาคมฯ พบว่า ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคใต้ ร้านค้าบุหรี่เถื่อนเริ่มขยายตัวเป็นอย่างมาก โดยมีร้านค้าบุหรี่เถื่อนเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าหรือ 245% จากปีก่อน จากเดิม 38 ร้านค้า เพิ่มขึ้นเป็น 131 ร้านค้า เช่น ในจังหวัดสงขลาเพิ่มจาก 12 ร้านเป็น 43 ร้าน นครศรีธรรมราชเพิ่มจาก 5 ร้านเป็น 20 ร้าน พัทลุงจาก 5 ร้านเป็น 13 ร้าน และสตูลจาก 10 ร้านเป็น 20 ร้าน ซึ่งล้วนแต่เป็นพื้นที่ที่มีการระบาดรุนแรงที่สุดและส่วนใหญ่ลักลอบมาจากต่างประเทศผ่านทางทะเลเช่นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส สมาคมฯ จึงอยากขอให้เจ้าหน้าทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ดีเอสไอ สรรพสามิต และศุลกากร ช่วยระดมกวาดล้างและจับกุมบุหรี่เถื่อนใน 8 จังหวัดภาคใต้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งติดตามขยายผลไปให้ถึงต้นตอและดำเนินการตามกฎหมายทุกฉบับเพื่อลงโทษให้รุนแรงที่สุดเพื่อไม่ให้มีการกลับมากระทำผิดซ้ำอีก”