เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2565 นายบดินทร ไชยพรศ์ ปลัดอำเภอส่วนหน้าเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ได้เดินทางลงพื้นที่หารือกับชาวเลอูรักลาโว้ยที่ชุมนุมเฝ้าระวังไม่ให้เอกชนที่อ้างกรรมสิทธิในที่ดินทำการสร้างรั้วกั้นถนนดั้งเดิม โดยนายนายบดินทรได้กล่าวกับชาวบ้านว่าในวันที่ 6 ธันวาคม ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัดสตูบจะลงพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ ดังนั้นเราควรที่จะชุมนุมอย่างสงบสันติ โดยเอกชนได้รับปากกับนายอำเภอไว้ว่าจะไม่ก่อสร้างอะไรต่อเพราะเรื่องเข้าสู่กระบวนการของศาล เมื่อต่างฝ่ายต่างถอยคนละก้าวก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ดังนั้นชาวบ้านควรสังเกตการณ์เรื่องประตูอย่างเดียว ส่วนด้านในเขาจะทำอะไรเป็นเรื่องของเขา
ทั้งนี้นายบดินทร ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายยาลา ใบกาเด็ม นายอำเภอเมือง จังหวัดสตูล และเปิดลำโพงเพื่อยืนยันกับชาวบ้านโดยนายยาลากล่าวว่า ได้คุยกับเอกชนแล้วซึ่งเขายืนยันจะไม่ดำเนินการใดๆ หากจะทำอะไรจะปรึกษาตนก่อน และตนก็จะคุยกับชาวบ้านก่อน การจะดำเนินการใดๆต้องตามข้อตกลงกันไว้ที่จังหวัด
“ผมยืนยันว่าเขาจะไม่ดำเนินการใดๆทั้งสิ้นยกเว้นคุยกับผมก่อน เดี๋ยวผมจะไปทำเอ็มโอยูกับเขาอีกทีหนึ่ง ผมจะเป็นตัวเชื่อมระหว่างเอกชนรายนี้กับพวกเรา”นายยาลายืนยันผ่านโทรศัพท์กับชาวเล
นายอาทิตย์ ทะเลลึก ชาวเลกล่าวว่า ปลัดฯได้มาขอเจรจาให้เอาชาวบ้านเอาไซที่กีดขวางการก่อสร้างออก และเขาทำความเข้าใจกับชาวบ้านเบื้องต้นโดยได้ข้อตกลงว่า เราจะเอาไซออกเพื่อลดความตรึงเครียดลง และได้โทรหานายอำเภอเพื่อยืนยันว่าเขาจะไม่สร้างต่อซึ่งนายอำเภอรับรอง ซึ่งชาวบ้านยอมรับมติและยกไซออก แต่ยังเฝ้าระวังและสังเกตการณ์อยู่ เช่น ใครว่างๆก็นัดกันไปนั่งกินกาแฟ ซึ่งลดความตรึงเครียดได้ระดับหนึ่ง
“แม้รู้สึกดี แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ที่เขาพูดในลักษณะนี้ เราเคยเจรจาครั้งแรกให้หยุดการสร้างใน 7 วันเพื่อพูดคุยกันก่อน เขารับปากแต่วันรุ่งขึ้นก็สร้างต่อ พอครั้งที่สองไปนั่งประชุมกันกับผู้ว่าฯซึ่งทางผู้ว่าฯแจ้งว่านายอำเภอได้คุยกับเอกชนรายนี้แล้วยืนยันว่าจะไม่สร้างต่อ เราก็เปิดเส้นทาง ยกไซออก พอเก็บเสร็จ ลูกชายเขาไปเขียนในไลน์กลุ่มหนึ่งว่าไม่ยินยอมรับคำตัดสินนี้เพราะไม่รู้เรื่องด้วย ทำให้เรารู้สึกว่าคำพูดของเขาไม่น่าเชื่อถือ ทำให้ชาวบ้านต้องยกไซมาปิดต่อ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วเพราะไม่ต้องการชาวบ้านราว 20% จึงไม่เชื่อถือแต่เสียงส่วนใหญ่เป็นห่วงเรื่องภาพพจน์ เรารักเกาะหลีเป๊ะ ไม่ต้องการให้เกิดเรื่อง เราแค่เรียกร้องสิทธิ์เส้นทางสาธารณะเพื่อประโยชน์ของคนทั้งเกาะ คนงานและนักท่องเที่ยว ทุกชุมชนต้องใช้เส้นทางนี้”นายอาทิตย์กล่าว
/////////////////////