เด็กนักเรียนอูรักลาโว้ยเกาะหลีเป๊ะไหว้วอนเอกชนอย่าสร้างประตูปิดเส้นทางเข้าโรงเรียน เผยไม่เป็นอันเรียนเหตุต้องคอยเฝ้าระวังทั้งวันคืน ชาวเลเตรียมจัดใหญ่รับคณะ “อนุชา”ใช้เรืออย่างน้อย 20 ลำติดป้ายร้องขอความเป็นธรรม
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565 ที่โรงเรียนบ้านอาดัง เกาะหลีเป๊ะ อ.เมือง จ.สตูล เด็กนักเรียนหลายสิบคนได้พากันออกจากห้องเรียนไปยังประตูเข้า-ออก หลังโรงเรียน ภายหลังได้รับแจ้งว่าเอกชนที่อ้างกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่อยู่ติดกับโรงเรียนได้เดินหน้าดำเนินการสร้างประตูเหล็กเชื่อมเพื่อปิดตายบริเวณทางเข้าโรงเรียน ทำให้เด็กๆ พากันเข้าไปขัดขวาง เพราะประตูดังกล่าวเชื่อมต่อกับเส้นทางดั้งเดิมที่เด็กนักเรียนชุมชนดั้งเดิมชาวอูรักลาโว้ยใช้เดินมายังโรงเรียนทุกยุคทุกสมัย โดยเด็กบางส่วนเช้าไปยื้อไม่ให้คนงานนำเหล็กเข้าไปก่อสร้าง เด็กนักเรียนบางส่วนนั่งขวางเพื่อไม่ให้รถผ่าน
ทั้งนี้สถานการณ์การเผชิญหน้าระหว่างชาวอูรักลาโว้ยและเอกชนได้รุนแรงขึ้นตามลำดับภายหลังจากเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา เอกชนที่อ้างกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้ก่อสร้างรั้วกั้นถนนที่เป็นเส้นทางหลักในการสัญจรสู่ทางลงทะเลซึ่งเด็กนักเรียนใช้เดินไปโรงเรียนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน แม้ก่อนหน้านี้ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลและนายอำเภอเมืองสตูล ได้รับปากชาวบ้านว่าได้หารือกับเจ้าของที่ดินแล้วซึ่งได้รับปากว่าจะไม่มีการก่อสร้างใดๆ เพิ่มเติมจนกว่าจะมีการหารือกันเรียบร้อย ทำให้ชาวเลยอมยกไซหาปลาที่นำมากีดขวางไม่ให้เอกชนนำวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างเข้ามา อย่างไรก็ตามล่าสุดเอกชนที่อ้างกรรมสิทธิ์ในที่ดินยังคงเดินหน้าก่อสร้างประตูรั้วปิดตายทางเข้าโรงเรียนอีกด้านหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีการนำป้ายที่ระบุกถึงคำสั่งศาลมาติดไป ทำให้ชาวบ้านต่างรู้สึกโกรธเพราะเหมือนเป็นการยั่วยุ
เด็กๆ นักเรียนร่วมต่างร่วมกันให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้แทบไม่มีเส้นทางไหนที่เดินมาสู่โรงเรียนเพราะกำลังจะถูกปิดทั้งหมดโดยเมื่อเช้ากว่าจะเดินเข้าไปถึงโรงเรียนต้องใช้ความพยายามกันเป็นอย่างมาก เพราะมีรั้วเหล็กขวาง และเมื่อเห็นว่าเขาจะมาก่อสร้างต่อ พวกตนพยายามยกมือไหว้เพื่อไม่ให้ก่อสร้างปิดทางเดิน
“พวกเราร้องไห้ก็แล้ว ขอร้องก็แล้ว แทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพราะต้องคอยเฝ้าไม่ให้เขาก่อสร้างปิดเส้นทาง เราบอกว่าอย่าปิดทางเลยเพราะแทบไม่มีเส้นทางไหนเดินมาโรงเรียนแล้ว แต่เขาไม่รับฟัง พวกเราต้องมาเฝ้าเพราะเชื่อว่าถ้าเราไม่เฝ้าไว้เขาก็มาสร้างเพิ่ม” เด็กนักเรียนอูรักลาโว้ย กล่าว
เด็กนักเรียนกลุ่มนี้กล่าวว่า เขาทำร้ายพวกเราด้วยระหว่างที่เข้าไปแย่งเหล็ก โดยได้ตีมือพวกเรา แม้พยายามขอช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนอยู่ แต่เจ้าหน้าที่ก็เมินเฉย พวกเราอยากบอกนายกรัฐมนตรีให้มาช่วยเหลือด้วย ตอนนี้พวกเราไม่มีจิตใจที่จะเรียนเพราะต้องคอยเฝ้าระวัง ผ่านมานานนับสัปดาห์แล้วแต่ยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแก้ปัญหาอย่างจริงจริง
ขณะที่นางพิชญา แก้วขาว ผู้แทนมูลนิธิชุมชนไท กล่าวว่าในระหว่างวันที่ 14-15 ธันวาคม นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางมาลงพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ แต่จากที่ได้เห็นกำหนดการพบว่ายังแทบไม่มีเวลาได้คุยกับชาวบ้านและเดินสำรวจค้นหาความจริง
“พรุ่งนี้ชาวเลจะเอาเรือไม่น้อยกว่า 20 ลำไปลอยกลางทะเลเพื่อรอรับคณะรัฐมนตรีโดยเขียนข้อความต่างๆ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ดีเลย เด็กๆ กำลังยื้อพยายามไม่ให้เอาเหล็กไปใช้ก่อสร้างและร่วมนอนขวางทาง ส่วนชุมชนกำลังกลางเต้นท์เพราะต้องจัดเวรยามกันเ ได้ยินว่าเขาจะสร้างอีกในคืนนี้ สถานการณ์เผชิญหน้าเช่นนี้จริงๆแล้ว รัฐต้องเข้ามาดูแลหรือหาข้อยุติก่อน เช่น ห้ามไม่ให้มีการก่อสร้างต่อจนกว่าจะมีการพิสูจน์สิทธิ์แล้วเสร็จ แต่ตอนนี้เอกชนยังเดินหน้า ทำให้เกิดการเผชิญหน้า” นางพิชญา กล่าว