แบบนี้ก็ได้หรือ? ถ่ายรูปตึกคนอื่นไปปล่อยเช่า จ.น่าน

สนามข่าว 7 สี – ที่จังหวัดน่าน เจ้าของอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง เตือนระวังภัยรูปแบบใหม่ หลังถูกมิจฉาชีพถ่ายรูปอาคารไปแอบอ้างปล่อยเช่าผ่านเฟซบุ๊ก จนมีคณะครูโรงเรียนต่าง ๆ ถูกหลอกโอนเงินมัดจำกว่า 10,000 บาท

แบบนี้ก็ได้หรือ? ถ่ายรูปตึกคนอื่นไปปล่อยเช่า จ.น่าน

อาคารพาณิชย์ จำนวน 6 คูหา ซึ่งตกแต่งภายนอกด้วยไม้ ดูสวยงาม คล้ายโรงแรมที่พักเปิดใหม่ บริเวณริมถนนน่าน-ทุ่งช้าง เขตอำเภอเมืองน่าน ห่างจากท่าอากาศยานน่านนคร ประมาณ 1 กิโลเมตร คือสถานที่ที่มิจฉาชีพนำไปแอบอ้างหลอกลวงคณะครูให้โอนเงิน

เจ้าของอาคารพาณิชย์ เล่าว่า เขาก่อสร้างอาคารเพื่อประกอบธุรกิจครอบครัว ไม่ใช่ที่พัก หรือ โรงแรม เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อจากครูโรงเรียนแห่งหนึ่งว่าเห็นรูปอาคารนี้ในเฟซบุ๊ก ระบุข้อความรับจองที่พัก จึงติดต่อไปสอบถามราคา เนื่องจากช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ต้องพาคณะครูและนักเรียนมาร่วมแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ที่จังหวัดน่าน โดยมีครูโรงเรียนต่าง ๆ โอนเงินจองที่พักไปแล้ว 7 ราย คิดเป็นยอดเงินรวมกว่า 10,000 บาท กระทั่งหนึ่งในผู้เสียหายแวะมาดูสถานที่ ถึงทราบความจริงว่าถูกหลอก

คณะครู แฉพฤติกรรมมิจฉาชีพ หลอกโอนเงิน จ.เชียงใหม่

ทีมข่าวติดต่อไปยังคณะครูที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ชายมิจฉาชีพ ระบุชื่อ วิวัฒน์ อ้างตัวเป็นครู เคยได้รับรางวัลครูภาษาไทยดีเด่นประจำปี 2560 ด้วยอาชีพครูเหมือนกัน พูดคุยกันเข้าใจดี จึงหลงเชื่อโอนเงินมัดจำ ห้องพัก 3 ห้อง รวม 2,000 บาท เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา   

ทั้งนี้ ได้เข้าแจ้งความต่อศูนย์รับร้องทุกข์คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สภ.ช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ ให้ดำเนินคดีกับมิจฉาชีพรายนี้แล้ว เนื่องจากมีข้อมูลว่าคณะครูที่จังหวัดเพชรบูรณ์, พิษณุโลก และจังหวัดสตูล ถูกหลอกด้วยเช่นกัน เหตุการณ์นี้ทำให้คณะครูรู้สึกเสียกำลังใจมาก เพราะตั้งใจฝึกฝนนักเรียน เพื่อร่วมแข่งขันสร้างชื่อเสียงให้กับเด็ก, โรงเรียน และจังหวัดเชียงใหม่ แต่กลับมาถูกหลอกสูญทรัพย์ 

ทั้งนี้หลังรู้ความจริง ทางโรงเรียนก็เร่งหาเงินสนับสนุน และจองที่พักแห่งใหม่ให้กับคณะครูและนักเรียนแล้ว    

ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายวิวัฒน์ ชายที่ส่งรูปบัตรประจำตัวประชาชน มายืนยันกับผู้เสียหาย และเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่รับโอนเงินเป็นบัญชีม้าหรือไม่ แต่จากประวัติพบเกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกง จึงเตรียมรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับต่อไป