ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มอง การท่องเที่ยวไทยปี 64 อาจไม่ฟื้นตัวเร็วอย่างที่นักวิเคราะห์หลายสถาบันเคยคาดเนื่องจากการระบาดระลอกใหม่ทั่วโลกยังไม่คลี่คลายรวมถึงไทยยังควบคุมการระบาดไม่ได้ ธุรกิจที่พักและโรงแรมขนาดเล็ก-กลางกระทบหนัก เสี่ยงปิดกิจการถาวรหากรัฐยังควบคุมการระบาดไม่ได้ภายในไตรมาส 1/2564
ก่อนหน้านี้ทิศทางการท่องเที่ยวไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังปี 64 แต่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่าการท่องเที่ยวของไทยจะยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ในปีนี้หากการระบาดในประเทศยังดำเนินต่อไปและไม่สามารถควบคุมได้ภายในไตรมาส 1/2564 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อจำนวนนักท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรมและที่พักขนาดเล็ก-กลางในประเทศกว่า 3,700 แห่งอาจต้องปิดกิจการ
- Bloomberg วิจารณ์ท่องเที่ยวไทยในยุคโควิด: พลาดเป้าอย่างรุนแรง เพราะนโยบายรัฐไม่ดึงดูดใจ
- ท่องเที่ยวไทย เจ็บยาว นโยบายรัฐไม่ช่วย ต่างชาติกลับมาเที่ยวปลายปี 64 หลังคนไทยได้รับวัคซีน
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาธุรกิจโรงแรมและที่พักของไทยเผชิญภาวะห้องพักล้นตลาด มีจำนวนโรมแรมและที่พักจดทะเบียนอยู่ที่ 3.04 หมื่นแห่งหรือประมาณ 1.12 ล้านห้องแต่มีค่าเฉลี่ยอัตราการเข้าพักทั่วประเทศอยู่ที่ 69% ของจำนวนห้องพักทั้งหมดเท่านั้น และมีมูลค่าสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 16,117 บัญชี คิดเป็นมูลค่า 4.19 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ธุรกิจโรงแรมและที่พักไทยมีการพึ่งพาการเข้าพักจากนักท่องเที่ยวต่างชาติค่อนข้างสูง โดยเฉพาะ ใน 20 จังหวัด คือ ยะลา ภูเก็ต พังงา สุราษฎร์ธานี นราธิวาส ชลบุรี กระบี่ กรุงเทพมหานคร สงขลา สมุทรปราการ เชียงใหม่ ปทุมธานี ตราด ประจวบคีรีขันธ์ อยุธยา สุโขทัย เชียงราย ตรัง นนทบุรี และสตูล ที่มีจำนวนที่พักรวมกัน 1.84 หมื่นแห่ง คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60% ของที่พักหรรือ 72.4% ของจำนวนห้องพักทั้งหมดในประเทศ
ส่งผลให้ผู้ประกอบการโรงแรมและที่พักในกลุ่มนี้มีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากภาวะฟื้นตัวช้าของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า หากสถานการณ์การระบาดระลอกใหม่กินระยะเวลานานและยังมีการระบาดรุนแรงในต่างประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะลงลดเหลือเพียง 2 ล้านคนจากที่เคยคาดการณ์ไว้ 4.5 ล้านคนในช่วงเดือนธันวาคม ปี 2563 ส่งผลให้อัตราคาดการณ์การเข้าพักเฉลี่ยทั่วประเทศปี 2564 อยู่ที่ 35-40% ของจำนวนที่พักทั้งหมด
การลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจส่งผลให้กิจการโรงแรมและที่พักในกลุ่ม 20 จังหวัดที่พึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติสูงต้องปิดกิจการมากถึง 3,700 แห่งและอาจมีการปิดกิจการเพิ่มขึ้นหากมีสถานการณ์การระบาดยังไม่สามารถควบคุมได้และกินระยะเวลานาน
โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือกลุ่มที่พักราคาประหยัดและที่พักขนาดกลางที่มีรายได้หลักจากกลุ่มนักท่องเที่ยว Backpack และนักท่องเที่ยวทัวร์ ซึ่งมีกำไรต่ำและมีความยืดหยุ่นในการสร้างรายได้ทางอื่นน้อย ขณะที่กลุ่มโรงแรมและที่พักขนาดใหญ่และใหญ่พิเศษมีความได้เปรียบเรื่องการบริหารจัดการต้นทุนแต่ก็ต้องเผชิญกับภาระหนี้ที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน
สรุป:
การท่องเที่ยวไทยในปีนี้ยังคงวิกฤต จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงเหลือ 2 ล้านคนหากยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ภายในไตรมาสแรกของปี ธุรกิจโรงแรมและที่พักในจังหวัดที่พึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติสูงอาจต้องปิดกิจการถึง 3,700 แห่ง ธุรกิจควรมีการปรับตัวเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ เช่น ร้านอาหาร จัดงานสัมมนา และปรับตัวทำการตลาดผ่านเครือข่ายออนไลน์ให้มากขึ้นเพื่อความอยู่รอด
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา