ชาวบ้านผวา! ร้องรัฐจัดการช้างเลี้ยง ในหมู่บ้าน โผล่ทำร้ายป้า57 ขณะขี่รถไปกรีดยางสาหัสปางตาย โอดชีวิตตอนนี้ไม่เป็นอันทำมาหากิน ส่งผลกระทบรายได้ไม่มี
วันที่ 3 ก.พ.2564 ที่บ้านย่าบล หมู่ที่ 5 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล นายณัฐพงศ์ โปละกะ ปลัดป้องกันอำเภอมะนัง นายสมพร เกลี้ยงกลม กำนันตำบลปาล์มพัฒนา ร่วมรับฟังปัญหาของชาวบ้าน หลังพากันหวาดผวาไม่กล้าออกไปกรีดยาง หลังเกิดเหตุช้างที่มีคนเลี้ยงไว้ในพื้นที่ตกมัน ทำร้ายนางสุดใจ อายุ 57 ปีช่วงกลางดึกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ยังนอนรักษาอยู่ในห้องไอซียู รพ.สตูล ทำให้ชาวบ้านกลัวว่าจะถูกช้างกลับมาทำร้าย ส่งผลกระทบต่อรายได้เมื่อไม่สามารถออกไปกรีดยางได้
นางสุภากรณ์ อายุ 45 ปี เปิดเผยว่า อยู่ในเหตุการณ์ขณะนางสุดใจขี่รถจักรยานยนต์ออกไปกรีดยาง แล้วเจอช้างโผล่ออกมาจากริมถนนใช้งวงรัดตัวแล้วฟาดพับพื้นถนน ก่อนใช้เหยียบอกแล้วพยายามใช้งาแทง แต่โชคดีนางสุดใจพยายามคลานหนีรอดมาได้สภาพร่างกายบอบช้ำเลือดเต็มตัว ก่อนมีชาวบ้านพากันออกมาช่วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่ากลัวมาก ชาวบ้านไม่กล้าออกไปกรีดยาง รายได้ก็หดหาย อยากให้ทางการมาช่วยเหลือ เพราะช้างมีเจ้าของและสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาโดยตลอดทั้งทำลายพืชสวน สร้างความหวาดกลัว
ด้านนายธนากร น้องชายนางสุดใจ บอกว่า ความหวาดกลัวเกี่ยวกับช้างมีมาตลอด ยาวนานหลายปี แต่ครั้งนี้หนักมาก พี่สาวถูกช้างเหยียบปางตาย ต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู กระดูกหัก ปอดตับ หายใจไม่สะดวก บอบช้ำไปทั้งตัว อยากจะฝากถามหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่รู้ปัญหากันดี แต่ไม่เคยจะมาช่วยเหลือชาวบ้าน จึงต้องร้องปัญหาส่งเสียงไป 3 ข้อ
“ว่าการครอบครองช้างต้องมีอะไรบ้าง ต้องมีที่อยู่ชัดเจนของช้างหรือไม่ ใครเป็นคนรับผิดชอบหากช้างทำร้ายชาวบ้านแบบนี้ แล้วไม่เห็นเจ้าหน้าที่ลงมาช่วยเหลือชาวบ้าน เจ้าของช้างก็ไม่เห็นจะแสดงความรับผิดชอบอะไร บอกเพียงว่า หากอยากเอาเรื่องให้ไปฟ้องที่ศาลเอาเอง แล้วแบบนี้ความปลอดภัยต่อชาวบ้าน และความรับผิดชอบจะเรียกร้องได้ที่ใคร มาวันนี้ทุกคนก็ไม่กล้าออกไปหากิน แจ้งความแล้วจะเอาผิดได้หรือไม่ จากนั้นชาวบ้านไปบริเวณจุดเกิดเหตุ ยังมีร่องรอยที่ช้างหลุดมาทำร้ายชาวบ้านบนถนนทางไปกรีดยาง ขณะนี้ช้างตัวต้นเหตุยังอยู่ในป่าสวนปาล์ม”