อุทยานแห่งชาติตะรุเตา อุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของเมืองไทย ที่มีชื่อเสียงทางด้านประวัติศาสตร์และความสวยงามของธรรมชาติ อีกทั้งยังได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน (ASEAN Heritage Parks and Reserves) อีกด้วย อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่จำนวน 51 เกาะ มีเกาะขนาดใหญ่ 7 เกาะได้แก่ เกาะตะรุเตา เกาะอาดัง เกาะราวี เกาะหลีเป๊ะ เกาะกลาง เกาะบาตวง และเกาะบิสสี แบ่งออกเป็น 2 หมู่เกาะใหญ่ คือหมู่เกาะตะรุเตา และหมู่เกาะอาดัง-ราวี สำหรับเกาะหลีเป๊ะค่อนข้างได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว บนเกาะมีความเจริญมากกว่าเกาะอื่น ๆ ซึ่งจะมีเรือบริการพานักท่องเที่ยวจากเกาะตะรุเตาไปเกาะหลีเป๊ะและเกาะอื่น ความสวยงามของอุทยานแห่งชาติตะรุเตานั้นมีครบครัน ทั้งในทะเล หาดทราย และในป่า สามารถชมความงามของทิวทัศน์สวยๆ ชมโลกใต้ทะเล สัตว์ป่า พันธุ์พืช และบรรยากาศอันน่าประทับใจตามสถานที่ต่างๆ สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมน่าสนใจ (Ko Tarutao travel guide) – ชมความยิ่งใหญ่ของ เกาะตะรุเตาที่ไม่เพียงเป็นเกาะใหญ่สุดของอุทยานฯ เท่านั้น หากยังอุดมไประบบนิเวศหลากหลาย ทั้งป่าดิบชื้น ป่าชายเลน อันเป็นถิ่นอาศัยของพรรณไม้และสัตว์ป่านานาชนิด ซึ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นป่าชายเลน นอกจากนี้ยังมีอ่าวน้อยใหญ่ที่อุดมไปชายหาดสวยงามมากมายหลายแห่ง อีกทั้งในท้องทะเลของเกาะตะรุเตายังมีพันธุ์ปลาหลากหลายชนิดรวมทั้งเต่าทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์อีกด้วย – อ่าวพันเตมะละกา ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินสวยที่สุดจากอ่าวพันเตมะละกา ที่สามารถเดินขึ้นไปชมวิวบนผาโต๊ะบูสามารถมองเห็นเกาะน้อยใหญ่รอบ ๆ เกาะตะรุเตา เช่น เกาะบุโหลน เกาะกลาง เกาะไข่ เกาะอาดัง เกาะราวี หมู่เกาะเภตรา และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกมุมหนึ่ง ใช้เวลาเดินขึ้นจุดชมวิวประมาณ 20 นาที ที่นี่เป็นอ่าวที่มีชายหาดยาวขาวสะอาดและเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติตะรุเตาและศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งส่วนหนึ่งจัดนิทรรศการเกี่ยวกับเรื่องของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ของเกาะตะรุเตาให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้ – อ่าวจาก สัมผัสความเงียบสงบริมอ่าวจากอ่าวเล็ก ๆ ที่ติดกับอ่าวพันเตมะละกา – อ่าวเมาะและ เดินเล่นบนเม็ดทรายนุ่มเท้าของอ่าวเมาะและ หาดทรายขาวสะอาดของที่นี่ได้รับการแต่งแต้มด้วยทิวมะพร้าวเรียงรายสวยงาม ทั้งยังมีบังกะโลไว้พักแรมสำหรับคนที่อยากดื่มด่ำตะรุเตาให้เต็มอิ่ม – สนุกกับหลากกิจกรรมบนอ่าวสน เป็นอ่าวรูปโค้งที่มีหาดทรายสลับกับหาดหิน และเป็นที่วางไข่ของเต่าทะเล ที่นี่มีจุดกางเต็นท์บริการอาหารและเครื่องดื่ม และยังมีน้ำตกขนาดเล็กคือน้ำตกลูดู และน้ำตกโละโป๊ะ เหมาะสำหรับเดินป่าศึกษาธรรมชาติ – ทักทายดวงตะวันยามเช้าที่ อ่าวตะโละวาวอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะอันเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม – เรียนรู้ประวัติศาสตร์จากอ่าวตะโละอุดัง ด้านหน้าอ่าวมีหินซีกขนาดใหญ่โดดเด่นเป็นสัญลักษณ์ เป็นที่ตั้งของสะพานท่าเทียบเรือและหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ที่ ตต.1 (ตะโละวาว) พื้นที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ตั้งนิคมฝึกอาชีพสำหรับนักโทษกักกันและนักโทษอุกฉกรรจ์ ปัจจุบันทางอุทยานแห่งชาติได้จัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติและประวัติศาสตร์ไว้บริการนักท่องเที่ยวที่สนใจ – สัมผัสสายน้ำเย็นฉ่ำจากน้ำตกลูดู เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่มีความสวยงาม มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ – ระทึกใจไปกับความตื่นเต้นในถ้ำจระเข้ เป็นถ้ำที่มีความลึกประมาณ 300 เมตร ภายในมีหินงอกหินย้อยสวยงาม และมีลักษณะแตกต่างกันไปชวนจินตนาการบรรเจิด การเดินทางไปถ้ำจระเข้ต้องนั่งเรือหางยาวไปตามคลองพันเตมะละกา ซึ่งอุดมไปด้วยป่าชายเลนที่มีไม้โกงกางจำนวนมากตลอดสองฝั่งคลองโดยใช้เวลาล่องเรือประมาณ 20 นาทีและใช้เวลาชมถ้ำประมาณหนึ่งชั่วโมง ติดต่อได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของอุทยานฯ ผู้ที่จะเที่ยวชมภายในตัวถ้ำควรนำไฟฉายไปด้วย – ตื่นตากับวิวสุดอลังการจากจุดชมวิว “ผาโต๊ะบู” เป็นหน้าผาสูง 60 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ตั้งอยู่ด้านหลังที่ทำการอุทยานฯ โดยใช้เวลาเดินขึ้นจุดชมวิวประมาณ 20 นาที จากบนนี้จะเห็นทะเลสีครามสดใส ที่มาพร้อมทัศนียภาพชวนมองของเกาะบุโหลน เกาะกลาง เกาะไข่ เกาะอาดัง เกาะราวี หมู่เกาะเภตรา และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงามอีกมุมหนึ่ง – เดินป่าศึกษาธรรมชาติ จากที่ทำการอุทยานฯ บริเวณอ่าวพันเตมะละกา มีเส้นทางเดินเท้าผ่านป่าดงดิบไปอ่าวตะโละวาวระยะทาง 12 กิโลเมตร สภาพของสองข้างทางเป็นป่าดงดิบหนาทึบ ร่มรื่นด้วยไม้นานาพรรณมีสัตว์ป่า เช่น หมูป่า กระจง และนกน่าสนใจหลายชนิด โดยเฉพาะนกเงือกที่พบได้บ่อย นอกจากนี้ยังมีอีกเส้นทางหนึ่งไปอ่าวจากอ่าวเมาะและจนถึงอ่าวสนระยะทาง 8 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยจะผ่านป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์และยังเหมาะแก่การดูนกเช่น นกเงือก นกแซงแซว – ล่องเรือรอบเกาะ เพื่อศึกษาธรรมชาติโดยรอบ โดยอุทยานฯ ได้จัดเรือบริการพร้อมเจ้าหน้าที่นำทางชมหาดทรายต่างๆ ซึ่งเริ่มจากแวะดูนกที่อ่าวจาก ชมหาดทรายขาวและยาวที่สุดที่อ่าวสน ศึกษาร่องรอยประวัติศาสตร์ที่อ่าวตะโละอุดัง ชมธรรมชาติที่อ่าวตะโละวาว แวะดำน้ำและเที่ยวป่าชายเลนใช้เวลาในการล่องเรือ 1 วัน ทั้งนี้ ผู้สนใจติดต่อได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบนเกาะ ช่วงเวลาเหมาะสม : เดือนพฤศจิกายน-เมษายน ฤดูกาลท่องเที่ยว เปิดตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน-15 พฤษภาคมของทุกปี ข้อมูลที่พัก ในเขตอุทยานฯ มีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยวบนเกาะตะรุเตาและเกาะอาดัง ราคา 300-3,000 บาทสอบถามรายละเอียดได้ที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760 เว็บไซต์ www.dnp.go.th หรือศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติตะรุเตา บริเวณท่าเรือปากบารา ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล 91110 โทร. 0 7478 3485, 0 7478 3597, 0 7478 1285 หรือหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติตะรุเตาที่ ต.ต. 1 (อ่าวพันเตมะละกา) บนเกาะตะรุเตาโทร. 0 7472 9002-3