รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 25 พฤศจิกายน เครือข่ายปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสงขลา – สตูล และเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น นำโดยนายรุ่งเรือง ระหมันยะ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.รพ.จะนะ นายกิตติภพ สุทธิสว่าง และนายเอกชัย อิสระทะ พร้อมตัวแทนชาวบ้านในอำเภอจะนะ เดินทางเข้ายื่นหนังสือ ถึง นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เรียกร้องให้ยกเลิกเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชน หรือ อีไอเอ ของบริษัททีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ที่จะดำเนินการในระหว่างวันที่ 13 – 20 ธันวาคม 2564 ในโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคตอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
เนื่องจากเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น มีการทำบันทึกข้อตกลงกับรัฐบาล เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563 ซึ่งพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ลงนามยอมรับข้อเสนอของเครือข่ายฯ โดยมีสาระสำคัญร่วมกันว่า ต้องตรวจสอบการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ในโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะว่าถูกต้องชอบธรรมหรือไม่อย่างไร และระหว่างนี้ให้ยุติการดำเนินการทุกอย่างไว้ก่อน จนกว่าผลการตรวจสอบจะแล้วเสร็จเรียบร้อย โดยเฉพาะการเปลี่ยนสีผังเมืองในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม 16,700 ไร่ และการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรือ EIA. ทั้ง 4 ฉบับ ของบริษัททีพีไอ โพลีน พาวเวอร์ (จำกัดมหาชน)
แต่วันนี้ทางบริษัท TPIPP และ ศอ.บต.กลับกำหนดวันที่จะเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นในโครงการฯซึ่งจะนำไปสู่การทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรือ EIA และรายงานผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมหรือ EHIA ในโครงการย่อยจำนวน 4 ฉบับรวด ระหว่างวันที่ 13 – 20 ธ.ค. 2564 ทั้งนี้กระบวนการทำผังเมืองยังไม่แล้ว ผังเมืองยังไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีม่วง แต่กลับเดินหน้า ทำ EIA/EHIA จึงจำเป็นต้องออกมายื่นหนัง เคลื่อนไหว เพื่อทวงสัญญาจากรัฐบาล ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้รับหนังสือพร้อมประชุมรับทราบข้อเท็จจริงในโครงการ และจะดำเนินการนำเสนอข้อกังวลของกลุ่มประชาชนในพื้นที่ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวทันที
ทั้งนี้นางนูรี โต๊ะกาหวี ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์หน้าศาลากลางจังหวัดสงขลายืนยันรัฐบาลต้องดำเนินการตามข้อตกลงเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563 ไม่เช่นนั้นจะไปทวงสัญญาที่ทำเนียบรัฐบาลจนกว่าจะได้คำตอบ
นพ.สุภัทรกล่าวว่า การเตรียมที่จะจัดเวทีรับฟังความเห็นในโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคตอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เพื่อนำไปสู่การทำรายงาน EIA และ EHIA ในโครงการย่อยจำนวน 4 ฉบับ เป็นเรื่องที่สร้างความกังวลให้กับชาวบ้านในพื้นที่ เนื่องจากยังมีข้อตกลงร่วมเมื่อ 15 ธันวาคม 2563 ในการทำ SEA ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่เองก็ยังไม่ได้รับทราบว่ามีความคืบหน้าอย่างไรหรือไม่ แต่การกำหนดเปิดเวทีรับฟังความเห็นกลับดำเนินการขึ้นในเวลารวดเร็วและยังอยู่ในช่วงสถานการณ์การระบาดโควิด 19 ทำให้ต้องมาแสดงพลังกันอีกครั้ง
นางสาวจันทิมา ชัยบุตรดี ตัวแทนชาวบ้านในอำเภอจะนะ กล่าวว่า หากเกิดโครงการฯนี้ขึ้นมาจริงๆ นั้นผลกระทบคงไม่ได้ครอบคลุมเฉพาะรัศมี 5 กิโลเมตรเท่านั้น แต่ในการทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม กลับทำขอบเขตเพียงรัศมี 5 กิโลเมตรเท่านั้น ลองเทียบดูว่าผลกระทบจากอินโดนีเซียยังมาถึงประเทศไทยได้ นอกจากนั้นชุมชนชาวประมงเองก็มีความกังวลกับโครงการนี้ เพราะจะนะถือเป็นแหล่งอาหารที่สมบูรณ์ แต่หากเกิดอุตสาหกรรมขึ้นมา ผลกระทบก็จะเกิดขึ้นกับแหล่งอาหาร และอาชีพของชาวประมง ซึ่งไม่มีความเป็นธรรมกับชาวประมง
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่