แรงงานเถื่อนจากเมียนมาทะลักเข้าไทย ใช้เป็นทางผ่านสู่ประเทศที่ 3 กองทัพภาคที่ 4 บินลงขันน็อตทุกชายแดนทางบกและทะเล สกัดโอมิครอน มากับขบวนการขนแรงงานข้ามแดน หลังจับกุมได้แทบทุกวัน
วันที่ 19 ธ.ค. 64 พลตรี ศานติ ศกุนตนาค รอง แม่ทัพภาคที่ 4/รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของส่วนราชการตามแนวชายแดนเพื่อเน้นย้ำการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ โอมิครอน ( Omicron ) และ มาตรการรองรับการเปิดประเทศ(Covid Free Setting) ตรวจเยี่ยม การปฏิบัติงานของ ชป.พิทักษ์พื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย บริเวณหลักเขตแดนที่ 8 พื้นที่ อ.ควนโดน จ.สตูล และจุดหลักเขตสุดท้ายเกาะปราสมานา ต.ปูยู อ.เมือง สตูล ติดน่านน้ำชายแดนประเทศมาเลเซีย
โดยร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ตามแนวชายแดน จ.สตูล ลาดตระเวนทางน้ำ เพื่อหาแนวทางการบูรณาการการสกัดกั้นป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ฯ ตามแนวชายแดนไทย – มาเลเซีย และ พบปะ ชป.ลาดตระเวนทางน้ำ ณ เกาะปราสมานา ต.ปูยู อ.เมือง จ.สตูล เพื่อติดตามการสกัดกั้นป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ฯ ตามแนวชายแดนไทย – มาเลเซีย ที่มาในรูปของแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านเดินทางผ่านไปสู่ประเทศที่ 3 ที่กำลังต้องการแรงงานในขณะนี้ โดยมี พันเอก ฐนิตพนธ์ หงส์วิไล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ให้การต้อนรับ
รอง แม่ทัพภาคที่ 4/รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 ระบุว่า “การลงพื้นที่ในครั้งนี้หลังได้รับรับนโยบายจากท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ให้ดูความพร้อมตามแนวชายแดนแม้จะมีการป้องกันไว้อย่างดีทั้งฝั่งประเทศเมียนมาและมาเลเซีย ซึ่งขณะนี้พบว่า covid สายพันธุ์ใหม่เริ่มมีการระบาดในประเทศเพื่อนบ้านของเรา ข้อมูลการข่าวพบว่าคนในมาเลเซียได้ติดโควิคสายพันธุ์ใหม่เป็นการติดภายใน ทำให้เราต้องระมัดระวังป้องกันให้ดี
ทั้งนี้ประเทศไทยเรากำลังเตรียมความพร้อมในการที่จะเปิดประเทศ ไม่ว่าจะเป็นชายแดนที่ติดประเทศเพื่อนบ้านของเราขณะนี้มีความพร้อมที่จะเปิดประเทศ จึงเดินทางมาให้กำลังใจกองกำลังตามแนวชายแดน
สิ่งที่เราเป็นห่วง แม้ว่าแรงงานต่างด้าวที่จะเดินทางมาจากประเทศเพื่อนบ้านน้อยแล้ว ส่วนใหญ่พบว่าเป็นแรงงานไทยที่เดินทางออก กองกำลังเทพสตรีโดยเฉพาะ ฉก.ร.5 ยังคงเข้มตลอดเวลา ล่าสุด สามารถจากกุมแรงงานที่มาจากประเทศเมียนมาร์ได้เยอะ แทบจะทุกวัน ล่าสุดจับกุมได้ 44 คนที่จังหวัดชุมพร สอบถามพบว่าจะลงใต้มาหาดใหญ่ และมาภูเก็ต ก่อนที่จะออกไปประเทศเพื่อนบ้านมาเลเซีย
วันนี้ยังพบว่าเมืองต่าง ๆ ในมาเลเซียยังต้องการแรงงานอยู่ ความต้องการแรงงานยังมีสูง ทำให้สามารถจับกุมได้เยอะ ยอมรับว่าก็สงสารแรงงานต่างด้าวที่ต้องการมาทำงาน เพราะแต่ละคนที่เดินทางมาพบว่าต้องจ่ายหัวละ 25,000 บาท ถือว่าเป็นเงินที่สูงมาก แต่มาถูกจับกุมได้ก่อนแต่เราต้องสกัดกั้น
เรามีการสกัดกั้นอยู่ตลอดเวลา อาจจะมีบ้างที่หลุดรอดขึ้นมา ทำให้ต้องมีการเน้นย้ำในตอนล่างเพื่อช่วยกันสกัดกั้น ถึงแล้วเราจะเข้าใจและเห็นใจในเรื่องของแรงงานต่างด้าว เราต้องทำตามกฎหมาย ซึ่งเราเป็นห่วงในเรื่องของการลักลอบค้าแรงงานและเป็นห่วงเรื่องของเชื้อโควิชที่จะระบาดเข้ามาในพื้นที่ด้วย
ฝากประชาชนทุกท่านอย่าเห็นแก่ประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ ก็เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศก่อน เราต้องการให้ในเมืองสตูลและเมืองชายแดนเปิดประเทศมีความพร้อม ต้องร่วมด้วยช่วยกัน จะปล่อยให้เป็นเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจอย่างเดียวไม่ได้หักทุกคนไม่ช่วยกัน”