สนามข่าว 7 สี – ทีมข่าว 7HD ยังเกาะติดกับการไล่ล่า “ฉุย เขาจันทร์” กับพวกอีก 2 คน ผู้ต้องหาคนสำคัญที่ยิงตำรวจกองบังคับการปราบปรามเสียชีวิต เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา ที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งขณะนี้ยังจับกุมไม่ได้ แต่ครอบครัวของทั้ง 3 คน วิงวอน “ฉุย เขาจันทร์” ผ่านสื่อ ขอให้นำลูกน้องเข้ามอบตัว เพราะเกรงว่าลูก ๆ จะถูกวิสามัญฯ
แม่ รวย สมุน ฉุย เขาจันทร์ ร่ำไห้ วอนลูกมอบตัว จ.พัทลุง
ทีมข่าวเดินทางไปยังตำบลทุ่งนารี อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง บ้านของ นายอัฐพล ใหม่อ่อน หรือ รวย อายุ 21 ปี หนึ่งในผู้ต้องหายิงปะทะกับตำรวจกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ที่อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่ง นายอัฐพล เป็นลูกน้องคนสนิทของ นายจำรัส รักจันทร์ หรือ ฉุย เขาจันทร์ ที่ยังร่วมกันหลบหนี
โดยพบกับ แม่นายรวย อยู่ที่บ้านกับน้อง ๆ ของนายรวย อีก 3 คน ก่อนเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ นายรวย บอกว่าไปทำงานรับจ้างตัดไม้กับน้าบ่าว คือ นายฉุย และจะกลับบ้านนาน ๆ ครั้ง กระทั่งวันที่ 7 มีนาคม แวะกลับมาที่บ้าน ตะโกนถามตนว่า หุงข้าวและทำกับข้าวแล้วหรือยัง จากนั้นก็ขับรถออกไปทันที ก่อนรู้อีกทีว่าลูกเป็นหนึ่งในคนร้ายยิงปะทะกับตำรวจ
ยืนยันว่า หลังเกิดเหตุ ไม่ได้ติดต่อกลับมาหาคนในครอบครัว และยังไม่เชื่อว่าจะไปยุ่งเกี่ยวกับขบวนการยาเสพติด เพราะบ้านยังมีฐานะยากจน ตนก็ไม่มีงานทำ พ่อนายรวยก็ขับรถบรรทุกรับส่งน้ำยางพารา ส่วนพี่สาวนายรวยทำงานโรงงานอยู่ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และขณะนี้ภาวนาให้ลูกรอดชีวิต ไม่ถูกวิสามัญฯ และขอสื่อสารถึง นายฉุย ให้นำลูกมอบตัวดีกว่าคิดสู้
ขณะที่ พ่อและแม่นายเกรียงไกร ไชยพูล หรือ หนึ่ง อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาอีกคน นั่งคอยลูกอยู่หน้าบ้านในตำบลท่าชะมวง อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา มีใบหน้าเป็นทุกข์ เป็นห่วงลูก แม่นายหนึ่ง บอกว่า ที่ผ่านมาลูกมีอาชีพทำงานรับจ้างทั่วไป ทั้งกรีดยางพารา รับจ้างตัดไม้ในพื้นที่ และรับจ้างสร้างบ้าน มีความสนิทกับ นายพงศกร สุวรรณมะโณ หรือ นายเจ ที่ถูกจับได้แล้ว
ซึ่งครอบครัวกังวลว่าลูกจะถูกวิสามัญฯ จึงอยากให้ นายฉุย นำลูกและเพื่อนที่ยังหลบหนีเข้ามอบตัว เพราะขณะนี้ตนก็มีความเครียด กลัวโรคประจำตัวจะกำเริบ
พี่ชาย ฉุย เขาจันทร์ วอนน้องมอบตัว ผวาแม่ช็อกย้ายอยู่ที่อื่น จ.สงขลา
ด้าน พี่ชายฉุย เขาจันทร์ ยังคงทำงานรับซื้อไม้ตามปกติ อยู่ที่บ้านในตำบลท่าชะมวง อำเภอรัตภูมิ โดยมีสีหน้าเป็นกังวลได้อย่างชัดเจน ก่อนเปิดใจกับทีมข่าวว่า หลังเกิดเหตุ ครอบครัวได้ย้ายพ่ออายุ 87 ปี ที่เคยอยู่ที่บ้าน ไปอาศัยอยู่กับแม่และน้องสาวที่จังหวัดสตูล เพราะไม่อยากให้รับรู้ข่าวว่าน้องชายถูกตำรวจตามล่า กลัวจะช็อก ซึ่งขณะนี้อยากให้น้องชายติดต่อมอบตัวดีกว่าสู้กับตำรวจ ส่วนเรื่องยาเสพติดก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว ที่ผ่านมารู้เพียงว่า น้องรับจ้างตัดไม้อยู่ในพื้นที่เท่านั้น