โจรอุตริ บุกป่าช้าทุบเจดีย์ ขโมยกระดูกคนตาย หายไปแล้ว 9 ราย เชื่อเป็นฝีมือพวกเล่นคุณไสย ห่วงวิญญาณไม่สงบ
(8 เม.ย.65) ที่บริเวณป่าช้าท่าใหญ่ ม.1 ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล ชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้นำผู้สื่อข่าวลงไปดูเจดีย์หรือบัวสำหรับใส่โกศ ซึ่งเป็นที่เก็บกระดูกของญาติพี่น้องบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว และถูกโจรมาขโมยกระดูกคนตาย โดยใช้ของแข็งทุบด้านหลังของเจดีย์หรือบัวแล้วนำกระดูกคนตายที่อยู่ในโกศออกไป ทิ้งโกศไว้ให้ญาติดูต่างหน้าแทน โดยเชื่อว่านำไปทำสิ่งไม่ดี หรือคุณไสย ต่างรู้สึกไม่สบายใจเป็นห่วงวิญญาณที่อาจถูกนำไปใช้ ไม่ได้ไปผุดไปเกิด เตรียมเข้าแจ้งความที่ สภ.ละงู
นายศิล หลีกัง อายุ 81 ปี ผู้ใหญ่ในหมู่บ้านและดูแลป่าช้าแห่งนี้มากว่า 40 ปี กล่าวว่าตนได้แวะมาดูแลป่าช้าแห่งนี้ เมื่อวันที่ 25 มี.ค.65 พบว่ามีเจดีย์หรือบัวถูกทำลายโดยมีการทุบด้านหลังเจดีย์หรือบัวแล้วล้วงเอาโกศออกมา ตอนแรกเข้าใจว่าขโมยโกศเพื่อนำทองเหลืองไปขาย แต่ปรากฏว่าโกศยังอยู่แต่ที่หายไปคือกระดูก และล่าสุดเมื่อวันที่ 7 เม.ย.65 ที่ผ่านมาตนมาป่าช้าเพื่อเตรียมที่จะชักชวนเพื่อนบ้านมาพัฒนาเพราะวันที่ 12 เม.ย. 65 จะมีการทำบุญ ในเจดีย์หรือบัวที่ไม่มีโกศก็จะห่อด้วยผ้าขาว ปรากฏว่ามีกระดูกหายไปจากเจดีย์ ประมาณ 7-9 เจดีย์
ตั้งแต่มีป่าช้าแห่งนี้ชาวบ้านไม่เคยพบการกระทำเช่นนี้มาก่อน ก็ไม่รู้ว่าที่มาขโมยกระดูกคนตายไปนั้นต้องการนำไปเพื่ออะไรกันแน่ เป็นการรบกวนคนตาย ชาวบ้านคิดกันว่าจะหากล้องวงจรปิดมาติดตั้ง และทำรั้วกั้นอย่างน้อยคนร้ายที่ขโมยจะได้เข้ามายากขึ้น
ด้าน ร.ต.ท. บุญเหิม แก้วทอง ซึ่งกระดูกญาติถูกขโมยหายไป กล่าวว่า กระดูกของน้าสาวถูกขโมยไปเช่นกัน กระดูกนี้เป็นศุนย์รวมจิตใจของลูกหลานทุกคน อยากให้ญาติๆ ทุกคนได้สอดส่องดูแลเจดีย์หรือบัวของญาติพี่น้องด้วยเพราะขโมยอาจจะไปที่อื่นเมื่อทางนี้รู้ตัวแล้ว วิธีการคนร้ายจะทุบด้านหลังของเจดีย์หรือบัวแล้วล้วงเอากระดูกไป น่าแปลกที่ไม่ยอมเอาโกศไปแต่เอาเฉพาะกระดูกเท่านั้น รู้สึกเสียใจมาก
ครั้งแรกมา 25 มี.ค. ครั้งสุดท้ายวันที่ 7 เม.ย. 65 รวมแล้วที่ขโมยกระดูกไป 9 บัวแล้ว รู้สึกโกรธ เพราะเอากระดูกญาติเราไม่รู้ว่าเอาไปทำอะไรอาจเอาไปทำคุณไสย เอาไปทำของไม่ดี คนตายไม่สงบ กลัวว่าวิญญาณญาติจะถูกนำไปใช้ในทางไม่ดี ตนจะไปแจ้งความ กระดูกบรรพบุรุษเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจคนตายไปแล้ว มีกระดูกเพียงอย่างเดียวที่เหลืออยู่ ก็ไม่อยากให้ใครเอาไปทำอะไร
ตอนนี้ชาวบ้านได้ร่วมกันคิดว่าจะติดตั้งกล้องวงจรปิด แต่อาจลำบากในช่วงกลางคืน ส่วนกระดูกที่ใส่ในเจดีย์หรือบัวนั้นก็จะประชาสัมพันธ์ให้ฝังดินไปเลยจะได้ไม่ถูกขโมยแบบนี้
สำหรับป่าช้าท่าใหญ่แห่งนี้ชาวบ้านจะร่วมกันพัฒนาปีละ 1 ครั้ง แต่หลังจากนี้คงต้องเข้ามาดูแลให้บ่อยขึ้นอย่างน้อยเป็นการป้องปรามคนร้ายที่เข้ามาขโมยกระดูก ซึ่งตนเชื่อว่าน่าจะเป็นพวกมือใหม่ที่ศึกษาเรื่องคุณไสยเพราะจะนำกระดูกคนตายไปใช้อย่างอื่นนั้นคิดไม่ออกเหมือนกัน