นางสุพิน ศิริโภค รองประธานกรรมการ บมจ.แอดวานซ์ คอนเนคชั่น คอร์ปอเรชั่น (ACC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 65 ที่ 700 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 64 บริษัทมีรายได้ 128.25 ล้านบาท พร้อมคาดว่าผลประกอบการจะสามารถกลับมามีกำไรสุทธิได้ จากปีก่อนที่มีผลขาดทุนอยู่ 75.78 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทจะมีสัดส่วนรายได้หลัก 75% มาจากบริษัท เอซีซี อินฟรา จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านพลังงานและรับเหมางานด้านสาธารณูปโภค โดยปัจจุบันบริษัทเน้นเข้าไปรับงานโครงสร้างพื้นฐานรองรับอุตสาหกรรม ไฟฟ้า โทรคมนาคม ICT และพลังงาน ซึ่งมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และจะเป็นธุรกิจหลักที่จะสร้างผลประกอบการที่เติบโตอย่างมั่นคง
ปัจจุบัน เอซีซี อินฟรา มีงานในมือ(Backlog) รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท หลังจาก ล่าสุด ได้เซ็นสัญญารับงานจ้างเหมาวางท่อร้อยสายและบ่อพักสำหรับสายใยแก้วนำแสงใต้ดิน (Underground Fiber Optic) ระยะทาง 130 กิโลเมตร ระหว่าง จ.สตูล ถึง อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา มูลค่าโครงการ 91 ล้านบาท กับ บริษัท วิน เทเลคอม จำกัด โดยงานส่วนใหญ่จะรับรู้รายได้ในปี 65 และบางส่วนในปี 66
ในขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนการเข้าประมูลงานใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมที่จะเข้าประมูลงานสายสื่อสารมูลค่ากว่า 300-400 ล้านบาท คาดหวังได้งานให้ได้มากที่สุดเพื่อสนับสนุนรายได้ในอนาคต
ต่อมา คือ สัดส่วนรายได้ราว 12% จะมาจาก บริษัท เอซีซี แคนนาบิส จำกัด ประกอบธุรกิจด้านพืชกัญชงแบบครบวงจร คาดว่าจะสร้างรายได้เริ่มแรกประมาณ 70-80 ล้านบาท โดยปัจจุบันได้ดำเนินปลูกไปแล้วและจะเก็บเกี่ยวได้ในเดือน ส.ค.-ก.ย.65 นี้ ซึ่งผลผลิตที่ออกมาทั้งหมดนั้นทางบริษัทได้มีการเจรจากับพาสเวอร์จากสหรัฐอเมริกาไว้แล้ว
ส่วนที่เหลืออีกราว 13% จะมาจาก บริษัท เอซีซี แคปปิตอล จำกัด ประกอบธุรกิจด้านปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล และ ซื้อหนี้เข้ามาบริหาร โดยในปี 65 บริษัทเตรียมงบลงทุนไว้ราว 200 ล้านบาท ปัจจุบันได้มีการปล่อยสินเชื่อไปบ้างแล้ว 20 ล้านบาท และจะใช้งบในการซื้อหนี้มูลค่าประมาณ 50-80 ล้านบาทเพื่อเป็นการทำลองระบบต่างๆ เพื่อรองรับปี 66 ที่มีแผนซื้อหนี้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมองว่าในตลาดมีมูลค่าหนี้มากกว่า 300,000 ล้านบาท
สำหรับช่วงไตรมาส 1/65 บริษัทมีกำไรสุทธิ 135.50 ล้านบาท โดยกำไรที่กลับมาเป็นบวกในไตรมาสแรก สอดคล้องกับการปรับโครงสร้างธุรกิจ และการจำหน่ายเงินลงทุนใน บริษัท ซี.อี.ไอ.(เชียงใหม่) จำกัด และบริษัท เอซีซี กรีนเอนเนอร์จี จำกัด ในราคา 556.66 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับสินทรัพย์สุทธิ ณ วันขายเงินลงทุนของทั้งสองบริษัทย่อยที่ 395.48 ล้านบาท โดยการปรับโครงสร้างธุรกิจดังกล่าวทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดในมือกว่า 300-400 ล้านบาท โดยจะพิจารณาการใช้เงินลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสร้างผลตอบแทนกลับมาเร็วที่สุด ควบคู่ไปกับการใช้เงินสนับสนุนจากสถาบันทางการเงินเข้ามาเสริมด้วย
ด้านนายพลาคม ชัยกิตติศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอซีซี อินฟรา จำกัด กล่าวว่า กลุ่มบริษัทเตรียมขยายงานรับเหมา อินฟราสตรัคเจอร์แบบครบวงจร เนื่องจากบริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม และการบริหารโครงการรับเหมา อีกทั้งมีผู้บริหารและ ทีมวิศวกรที่มีประสบการณ์สูง และ มีผลงานจำนวนมากที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้าของโครงการ ซึ่งสามารถรองรับการลงทุนทั้งของภาครัฐและภาคเอกชน ด้านอินฟราสตรัคเจอร์หรือสาธารณูปโภคจำนวนมาก เพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม รวมถึงรองรับการเข้าสู่เศรษฐกิจยุคดิจิตอล ที่ต้องการความรวดเร็วในการสื่อสาร