เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน (ขสย.) ภาคใต้ ได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประเด็นกัญชาเสรีในกลุ่มเด็กและเยาวชน โดยเชิญแกนนำคนรุ่นใหม่ กลุ่มคนทำงานด้านเด็กเยาวชน ผู้นำนักศึกษา จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีศรีวิชัยวิทยาเขตสงขลา มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ และกลุ่มคนทำงานด้านสังคมในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง กว่า 80 คน ร่วมแลกเปลี่ยนสถานการณ์ปัญหากัญชากับเด็กและเยาวชนในพื้นที่ พร้อมเชิญนายประสิทธิชัย หนูนวล กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง สภาผู้แทนราษฎร ร่วมอัพเดทสถานการณ์ พร้อมแลกเปลี่ยนซักถามในประเด็นกฎหมายควบคุมกัญชา เมื่อวันที่ 9 – 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา
นางสาวอลิษา องศารา ผู้ประสานงานกิจกรรม เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชนภาคใต้ กล่าวว่า หลังมีการปลดล็อคกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษ จนถึงปัจจุบันที่ยังไม่มีกฎหมายที่ชัดเจนออกมาควบคุม จึงอาจเรียกได้ว่าเป็นช่วงเสรีกัญชาโดยแท้จริง เครือข่ายฯจึงได้ร่วมกันจัดเวทีเพื่อรับฟังความคิดเห็นของเด็ก เยาวชน คนรุ่นใหม่ คนทำงานด้านเด็กเยาวชน และคนทำงานภาคสังคม ในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งประกอบด้วย จ.สงขลา จ.สตูล จ.พัทลุง จ.ยะลา จ.ปัตตานี และ จ.นราธิวาส เพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์ปัญหาของแต่ละพื้นที่ พร้อมกับการร่วมเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยเวทีแรกจัดขึ้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และเวทีที่สองจัดที่ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา
“ข้อสรุปจากทั้งสองเวที เราเห็นตรงกันว่าควรใช้กัญชาให้เกิดประโยชน์ในทางการแพทย์ แต่ไม่เห็นด้วยกับการใช้กัญชาเพื่อการนันทนาการ และควรจะต้องเร่งให้มีกฎหมายมาควบคุมกัญชาที่มีความรัดกุมรอบด้านออกมาควบคุมโดยเร็วที่สุด และในระหว่างที่ไม่มีกฎหมายนี้ ภาครัฐควรมีมาตรการในการปกป้องคุ้มครองเด็ก เยาวชน จากกัญชาที่เป็นรูปธรรม ไม่ควรปล่อยให้มีภาวะสุญญากาศ ที่ทำให้กัญชามีความเสรีมากขนาดนี้” นางสาวอลิษา กล่าว
นายอับดุลปาตะ ยูโซะ นายกสมาคมเยาวชนพัฒนาบ้านเกิด (PPS) กล่าวว่า นอกจากการกล่าวถึงกัญชาในมิติศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้แล้ว การให้ข้อมูลความรู้ ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับกัญชาอย่างรอบด้าน เพื่อสร้างเกราะคุ้มกันให้เด็ก เยาวชน และสังคมได้รู้ถึงคุณและโทษของกัญชาตามนโยบายกัญาเสรี ก็เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญ