ครอบครัวเอกอัครราชทูตยูเครน นำเถ้ากระดูกมาไว้กับต้นอะโวคาโดที่เคยปลูกไว้ ณ บริเวณเขาบันไดกฤษ ภายใต้การดูแลของสวนนงนุชพัทยา
วันที่ 24 มิถุนายน 2564 ที่เฟซบุ๊ก สวนนงนุช พัทยา Nongnooch Garden Pattaya เปิดเผยว่า วานนี้ (23 มิ.ย.) Mrs. Natalia Beshta ภริยาเอกอัครราชทูตยูเครน ประจำประเทศไทย พร้อมด้วยบุตรชายทั้งสอง ได้นำเถ้ากระดูกของเอกอัครราชทูตยูเครน ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มาไว้กับต้นอะโวคาโด เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ครอบครัว ณ บริเวณเขาบันไดกฤษ ริมอ่างเก็บน้ำห้วยตู้ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
โดยมีนายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ให้การต้อนรับและนำคณะไปยังสถานที่ปลูกต้นอะโวคาโด ตามที่ท่านได้มาปลูกไว้ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2564 ท่านเอกอัครราชทูตเป็นคนรักต้นไม้มาก ท่านให้ความสำคัญกับการปลูกต้นไม้ และท่านได้นำต้นอะโวคาโด ที่เพาะจากเมล็ดด้วยตัวท่านเอง มาปลูกตามโครงการปลูกป่า เพื่ออนุรักษ์พันธุ์ไม้และสวนพฤกษศาสตร์ โดยสวนนงนุชพัทยา ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ ให้เข้าทำประโยชน์ในเขตป่า ตามมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2548 (ป54-5) ตามใบอนุญาต เล่มที่ 017 ฉบับที่ 30 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2561
โดยทำการปลูกไม้ยืนต้นชนิดต่าง ๆ ที่หายากและมีค่า มารวมไว้ในสถานที่แห่งนี้ เพื่อเป็นการอนุรักษ์และเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพฤกษศาสตร์แก่เยาวชนและบุคคลทั่วไป ดูแลโดยสวนนงนุชพัทยา
สำหรับนายอันดรีย์ เบชตา เอกอัครราชทูตยูเครนประจำประเทศไทย ได้เสียชีวิตขณะไปพักผ่อนและพบกับมิตรสหายที่เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในเบื้องต้นกรมที่มีบทบาทคือ กรมยุโรป กระทรวงการต่างประเทศ ที่ได้รับแจ้งเหตุการเสียชีวิตของท่านทูตเนื่องจากระบบการหายใจและการไหลเวียนโลหิตล้มเหลว
ในวันประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานในพิธีเชิญผ้าไตรบังสุกุลพระราชทาน ทอดถวายพระสงฆ์บังสุกุล และประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพแก่เอกอัครราชทูตยูเครนประจำประเทศไทย โดยมี นางนาตาเลีย เบชตา ภริยาของท่านทูตเบชตาและบุตรชายทั้ง 2 คนของท่านทูต นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำการกระทรวงการต่างประเทศ นายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ผู้บริหารกระทรวงการต่างประเทศ คณะทูตานุทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย และบุคคลใกล้ชิดของเอกอัครราชทูตยูเครนเข้าร่วม โดยบุตรชายของท่านทูตได้อ่านชีวประวัติเป็นภาษาอังกฤษและได้อ่านข้อความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในช่วงเช้าวันเดียวกันก่อนพิธีพระราชทานเพลิงศพจะเริ่มขึ้น ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศและครอบครัวเอกอัครราชทูตยูเครนประจำประเทศไทย ได้ประกอบพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระราชทาน ทอดผ้าบังสุกุล และถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ และก่อนพิธีทางการจะเริ่มขึ้นมีการนำดนตรีมาเล่นเพื่อรำลึกถึงท่านทูตเบชตาตามความประสงค์ของครอบครัว ขณะที่หลังวันพระราชทานเพลิงศพมีการเก็บอัฐิตามประเพณีโดยมีเจ้าหน้าที่กองแบบพิธีเข้าร่วมด้วย จากนั้นทางครอบครัวของท่านทูตเบชตาได้นำอัฐิบางส่วนไปลอยอังคารที่ จ.สตูลด้วย
หลังจากนี้จะมีพิธีส่งอัฐิท่านทูตเบชตากลับยูเครนต่อไป ซึ่งกำลังรอทางครอบครัวว่ามีกำหนดจะเดินทางกลับเมื่อใด โดยพิธีส่งอัฐิท่านทูตจะมีรถตำรวจนำจากทำเนียบทูตหรือสถานเอกอัครราชทูตยูเครนไปยังสนามบิน ซึ่งจะมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศรอรับ มีการนำพวงมาลัยวางบนกล่องบรรจุอัฐิของท่านทูต มีทหารกองเกียรติยศเป่าแตร และมีการแสดงความเคารพอัฐิก่อนนำอัฐิของท่านทูตขึ้นเครื่องบิน เป็นพิธีตามแนวปฏิบัติที่เรียบง่ายและสมเกียรติ
ไม่พลาดข่าวสำคัญ เจาะลึกทุกประเด็น
เพิ่มเราเป็นเพื่อนทาง @prachachat