สวนสัตว์โคราช ส่งกลับนกกระเรียนพันธุ์ไทย พลัดหลงบินไกลข้ามจังหวัด จากพื้นที่ชุ่มน้ำจ.บุรีรัมย์ หลบหากินในไร่ข้าวโพดใน อ.หนองบุญ จ.นครราชสีมา นานเกือบสัปดาห์ ตรวจสอบเป็นนกกระเรียนที่เพาะเลี้ยงจากกรง ก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติเมื่อปี 63
วันนี้ (7 ต.ค.2564) นายธนัท อุตรวิเศษ นักวิทยาศาสตร์สวนสัตว์ 4 สวนสัตว์นครราชสีมา กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งจากนายฉะอ้อน รักกลาง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา พบนกกระเรียนพันธุ์ไทย ในไร่ข้าวโพดของชาวบ้าน จึงส่งทีมสัตวแพทย์ ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ข้าวโพด พบว่าเป็นนกกระเรียนพันธุ์ไทย ที่ทางสวนสัตว์ นำไปปล่อยสู่ธรรมชาติเมื่อปี2563 ที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยจระเข้มาก จ.บุรีรัมย์
นายสุชาติ กล่าวว่า เจ้าของไร่ข้าวโพด บอกว่า นกกระเรียนพันธุ์ไทยตัวนี้มาอาศัยหากินอยู่ภายในไร่นานเกือบสัปดาห์ และเป็นนกไม่มีอาการตื่นกลัวคน จึงนำน้ำนำอาหารมาให้ก็กิน ให้อยู่ในไร่ตามปกติ ดูแลค่อนข้างใกล้ชิด ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นกระสา
ผู้ใหญ่บ้านรู้ว่ามีนกมาอาศัยในไร่ข้าวโพด เข้ามาตรวจสอบ พบว่าเป็นนกกระเรียนพันธุ์ไทยหายาก และเป็นสัตว์ป่าสงวน จึงห่วงว่าอาจจะถูกทำร้าย จึงใประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาจับนกกลับพื้นที่เหมาะสม
นายธนัท กล่าวอีกว่า จากการตรวจสุขภาพนกกระเรียนพันธุ์ไทยตัวนี้พบว่าแข็งแรง จึงนำส่งศูนย์อนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำนกกระเรียนพันธุ์ไทย จ.บุรีรัมย์ เพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
ไทม์ไลน์นกกระเรียนพันธุ์ไทยหายาก
สำหรับนกกระเรียนไทย เป็นสัตว์ป่าสงวนหนึ่งใน 19 ชนิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2554 องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย และสวนสัตว์นครราชสีมา เพาะขยายพันธุ์นกกระเรียนจากกรงเลี้ยง และปล่อยคืนปล่อยนกกระเรียนพันธุ์ไทยกลับคืนสู่ธรรมชาติครั้งแรก 10 ตัว เป็นลูกนกกระเรียนอายุประมาณ 1 ปี
โดยพิจารณาพื้นที่ที่เหมาะสมคือ บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก และอ่างเก็บน้ำสนามบิน จ.บุรีรัมย์ ทั้ง 2 พื้นที่ ถือเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยของนกหลายชนิด และเคยเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของนกกระเรียนพันธุ์ไทยในอดีต
และทุกๆปีจะมีการปล่อยนกกระเรียนพันธุ์ไทยป 10-15 ตัว ครั้งล่าสุดเมื่อ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการปล่อยเพิ่มอีก 14 ตัว รวมเป็น 133 ตัวที่มีการปล่อยคืนธรรมชาติ