นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่าปี 2566 ปตท.สผ.ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายไว้ที่ 5,481 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 191,818 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายลงทุน 3,152 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงิน 110,296 ล้านบาท และรายจ่ายดำเนินงาน 2,329 ล้านเหรีบญสหรัฐ คิดเป็นเงิน 81,522 ล้านบาท ส่วนแผนการลงทุน 5 ปี (2566-2570) เงินลงทุน 29,100 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงิน 1,006,676 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังสำรองงบประมาณในการขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจใหม่สำหรับปี 2566-2570 (5ปี) จำนวน 4,800 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงิน 166,052 ล้านบาท ในการศึกษาและพัฒนาธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ธุรกิจดักจับกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CCS) ธุรกิจการดักจับคาร์บอนและการใช้ประโยชน์ (CCU) การศึกษาธุรกิจไฮโดรเจนสะอาด การต่อยอดเทคโนโลยีที่บริษัทมีอยู่ไปสู่ธุรกิจเชิงพาณิชย์ และธุรกิจอื่นๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน ได้แก่
1.โครงการเพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียม รวมถึงเร่งกิจกรรมสำรวจ พัฒนาและผลิตเพิ่มเติมจากโครงการผลิตหลักที่สำคัญ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในประเทศไทย ได้แก่ โครงการจี 1/61 (แหล่งเอราวัณ, ปลาทอง, สตูล และฟูนาน) โครงการจี 2/61 (แหล่งบงกช) โครงการอาทิตย์ โครงการคอนแทร็ค 4 โครงการเอส 1 และโครงการผลิตในประเทศมาเลเซีย งบลงทุน 2,655 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงิน 92,925 ล้านบาท
ส่วนแผนดำเนินกิจกรรมเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 เช่น โครงการ CCS การใช้พลังงานหมุนเวียน การติดตั้งอุปกรณ์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการดำเนินการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก งบลงทุน 53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงิน 1,855 ล้านบาท
2.โครงการหลักที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา ได้แก่ โครงการมาเลเซีย เอสเค 410 บี และโครงการโมซัมบิก แอเรีย 1 ให้สามารถเริ่มการผลิตได้ตามแผน โดยบริษัทได้จัดสรรงบลงทุน 322 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงิน 11,270 ล้านบาท
3.โครงการต่างๆ รองรับการเติบโตในระยะยาว งบลงทุน 193 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงิน 6,755 ล้านบาท สำหรับการศึกษาทางธรณีวิทยาและการเจาะหลุมสำรวจและหลุมประเมินผลของโครงการในประเทศไทย มาเลเซีย และโอมาน