หลังจากฝนตกหนักและน้ำทะเลหนุน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี สั่งเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมช่วยเหลือชาวบ้าน โดยวันนี้ (13 พ.ย.64) นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมนายจำนง สวัสดิ์วงศ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ลงพื้นที่ศูนย์ดิจิตอลชุมชน ต.ท่าชนะ อ.ท่าชนะ เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับมือสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนเร่งด่วน เนื่องจากฝนตกหนักตลอด 24 ชั่วโมง
และมีน้ำทะเลหนุนสูง โดยลงดูบริเวณหลังสถานีรถไฟท่าชนะ ที่มีน้ำป่าไหลท่วมในเขตเศรษฐกิจตลาดท่าชนะ ซึ่งเทศบาล ต.ท่าชนะ ได้ใช้รถยนต์ติดเครื่องขยายเสียงและลำโพง ออกประกาศให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูง
ล่าสุด ถนนเส้นทางหมู่ 13 ต.คันธุลี ซอยยูงทอง 1 เชื่อมไปยังหมู่ที่ 6 ต.คลองพา สะพานกว้าง 4 เมตร ความยาวประมาณ 25 เมตร ได้ถูกน้ำป่ากัดเซาะคอสะพานขาด ประมาณ 3 เมตร ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี สั่งให้นำเครื่องจักรเร่งซ่อมแซมและให้รีบแก้ไขกระแสไฟฟ้าดับในเขตตลาดท่าชนะ พร้อมให้ส่งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เข้าพื้นที่ เร่งระบายน้ำออกโดยเร็วและแจ้งเตือนให้ประชาชนใช้เส้นทางเลี่ยงไปยัง อ.ละแม จ.ชุมพร
กรมอุตุนิยมวิทยา ย้ำเตือนเรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมาก และคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2564) ซึ่งประกาศฉบับที่ 5 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 ระบุว่า
หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมภาคใต้ตอนกลาง คาดว่าจะเคลื่อนลงทะเลอันดามันในวันพรุ่งนี้ (14 พ.ย. 64) ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้มีฝนตกหนักมากหลายพื้นที่
บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา และกระบี่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ภูเก็ต ตรัง และสตูล ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคใต้ควรระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร และทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ ฝั่งตะวันออกควรระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2564
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ภาพ/ข่าว สรเดช ส้มเกลี้ยง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ. สุราษฎร์ธานี