สตูล – พยานกว่าร้อยคนทยอยให้ปากคำคดีร่วมกันฉ้อโกงโครงการเราเที่ยวด้วยกัน หลังพบในพื้นที่สตูลถึง 7 คดี โดยส่วนใหญ่พยานยอมรับว่ามีนายหน้ามาเสนอแลกกับเงิน 500 บาท โดยบอกว่ารัฐบาลให้เงินไปเที่ยวเพียงใช้บัตรประชาชนกับโทรศัพท์เข้าร่วมโครงการ
วันนี้ (18 พ.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล มีการระดมพนักงานสอบสวนกว่า 10 ชีวิต ทุกท้องที่ทำการสอบปากคำพยานร่วม 100 คน ในคดีร่วมกันฉ้อโกงโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งมีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าทุกข์
โดยตำรวจกองปราบปรามตรวจสอบพบมี 7 คดีในท้องที่จังหวัดสตูล ที่มีโรงแรม รีสอร์ทพัวพัน โดยแบ่งเป็นอำเภอเมือง 4 แห่ง อำเภอละงู 2 แห่ง และอำเภอควนกาหลง 1 แห่ง พบมีพยานร่วม 8,000 คนทั่วทั้งประเทศ โดยเฉพาะพยานอยู่ในพื้นที่จังหวัดสตูลเยอะสุดร่วม 1,000 คน ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกของการสอบปากคำพยาน
พยานรายหนึ่งบอกว่า ตนได้ให้บัตรประชาชนพร้อมโทรศัพท์มือถือกับนายหน้าที่มาติดต่อไปจริง โดยเขาบอกว่าจะให้เงินกลับมา 500 บาทเพียงเข้าร่วมโครงการ ซึ่งในช่วงนั้นตนก็ว่างงานและอยากมีเงิน แต่ก็ไม่รู้ว่านายหน้าคนดังกล่าวใช้วิธีการเช่นใด มาวันนี้ตำรวจเรียกมาสอบปากคำ พร้อมยอมรับว่าตกใจและกลัวมาก เนื่องจากงานก็เพิ่งได้ทำไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร
ขณะที่ พยานอีกปากยอมรับว่า มีนายหน้าตั้งโต๊ะและเชิญชวนคนที่สนใจภายในหมู่บ้านเดียวกัน เข้าร่วมลงทะเบียนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทราบจากปากต่อปาก เพียงแค่นำโทรศัพท์มือถือและบัตรประชาชนไปให้นายหน้าคนดังกล่าวทำการกรอกข้อมูลยืนยัน แล้วจะได้เงินกลับมา 500 บาท ซึ่งทางตนเข้าใจว่าเป็นสิทธิ์ที่พึงจะได้จากการเข้าโครงการเราเที่ยวด้วยกัน จึงยินยอมให้เขาลงทะเบียนให้ แต่หากถามว่าลำพังตนและครอบครัวไม่เคยไปพักหรือนอนรีสอร์ท หรือ โรงแรมในจังหวัดสตูล เพราะมีงานต้องทำมากมาย ไม่เคยไปพักแต่อย่างใด และยอมรับว่าไม่ทราบเงื่อนไขในการลงทะเบียนครั้งนี้
สำหรับพื้นที่จังหวัดสตูล ทาง พ.ต.อ.นิพล เหมสลาหมาด รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล ได้แบ่งชุดสอบสวนออกเป็น 2 จุด เพื่อให้บริการประชาชนที่เป็นพยาน 1,000 คน ในการเดินทางมาให้ปากคำ โดยแบ่งสอบปากคำอาทิตย์ละ 2 วัน ลดการแออัดในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19