เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – “รสนา โตสิตระกูล” ยืนยันหนักแน่นฟ้าทะลายโจรรักษาโควิด-19 ได้ และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ผ่านทดลองทั้งแล็บและใช้กับ 309 ผู้ป่วย มีแค่ 3 คนที่เชื้อลงปอด ด้านผู้นำพุทธ-อิสลาม-คริสต์หนุนเต็มที่ ระบุพหุวัฒนธรรมเกื้อกูลสังคมเบ่งบานมากยุคโรคระบาด ชี้เป็นบทสรุปจากเวที “พลังศาสนากับการฟันฝ่าวิกฤตโควิด-19”
วันนี้ (7 ต.ค.) สภาผู้ชมและผู้ฟังรายการไทยพีบีเอส ภาคใต้ ได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นในหัวเรื่อง “พลังศาสนากับการฟันฝ่าวิกฤติโควิด-19” โดยมีผู้เข้าร่วมผ่านระบบซูมประมาณ 50 คน และเข้าร่วมผ่านการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กหลายเพจด้วยกัน โดยนายสุวัฒน์ คงแป้น ประธานสภาฯ ภาคใต้ กล่าวนำว่า ทุกศาสนาได้มีส่วนร่วมก่อรากให้กับทุกสังคม องค์ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพต่างๆ เกิดขึ้นจากศาสนสถานมากมาย ช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 เราได้เห็นการนำพลังทางศาสนามาช่วยเหลือสังคม ซึ่งก็นำมาสู่การเปิดเวทีในครั้งนี้
ต่อมาเป็นปาฐกถาเรื่อง “ฟ้าทะลายโจร(ได้)ทำอย่างไรให้แค่ทะลุกรอบคิดสู้โควิด-19” โดย น.ส.รสนา โตสิตระกูล จากมูลนิธิสุขภาพไทยและอดีต ส.ว.กรุงเทพฯ ความโดยสรุปว่า ไทยเราเป็นประเทศที่ 2 ที่มีเชื้อโควิด-19 จากมาจากเมืองอู่ฮั่นของจีน ช่วงปี 2563 เราควบคุมการระบาดได้ค่อนข้างดี มูลนิธิสุขภาพไทยได้ร่วมกับหลากมูลนิธิและเครือข่าย แต่พอเดือน เม.ย.2564 เริ่มมีการระบาดระลอก 3 ต่อเนื่องถึงระลอก 4 เวลานี้ที่หนักมากขึ้น เราก็มองเห็นพลังของสังคมเข้ามาช่วยเหลือเกื้อกูลกันมากมาย
ปีที่แล้วมูลนิธิสุขภาพไทยสนับสนุนด้านอาหารการกินเป็นหลักในนาม ‘ครัวปันกันอิ่ม’ ที่ริเริ่มจากพระไพศาล วิสาโล พอระบาดหนักเราก็เริ่มนำความรู้เรื่องสมุนไพรฟ้าทะลายโจรมาช่วยรักษา โดยมีการวิจัยในแล็บพบว่าสามารถสามารถยับยั้งเชื้อโควิด-19 ได้ แล้วก็นำไปทดลองรักษาผู้ติดเชื้อพบว่าได้ผลดี ในจำนวน 309 คนที่เราทดลองมีเพียงแค่ 3 คนที่มีเชื้อลงปอด กระทรวงสาธรณสุขก็ให้ความสนใจนำไปใช้ด้วย จนวันที่ 4 มิ.ย.2564 มีประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่าให้ใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโรคโควิด-19 ได้
น.ส.รสนากล่าวว่า ต่อมานำไปใช้กับการระบาดในพื้นที่ย่านคลองเตยในกรุงเทพฯ กลายเป็นคลองเตยโมเดล ฟ้าทะลายโจรได้กลายเป็นพระเอกใช้รักษาโควิด-19 จากนั้นได้กระจายไปใช้ในอีกหลากหลายพื้นที่ มีการร่วมมือกับทางรัฐสภา รวมถึงอีกหลากหน่วยงานหรือองค์กร สำหรับตนก็ได้ทดลองมากับตัวเองแล้ว ขอยืนยันว่าได้ผลดีมาก ซึ่งมีอยู่ช่วงหนึ่งมีความร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สามารถที่จะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายประชาชนได้มากเช่นกัน
“เราได้นำฟ้าทะลายโจรไปช่วยเหลือผู้ต้องขังในเรือนจำก็ได้ผล จากนั้นจึงกระจายทั้งเมล็ดและที่เป็นตัวยา อย่างภาคใต้เราส่งให้ไกลถึงที่ อ.เบตง จ.ยะลา เราให้ประชาชนพึ่งตนเองด้วยการทั้งปลูกและผลิตยาฟ้าทะลายโจร ไม่จำกัดด้วยว่าศาสนาไหน พี่น้องมุสลิมเราก็ส่งผ่านมัสยิดให้ด้วย เมื่อชุมชนช่วยเหลือตัวเอง พหุวัฒนธรรมที่งดงามก็เกิดขึ้นได้ แม้แพทย์ปัจจุบันไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าไร แต่เราเชื่อมั่นว่าสมุนไพรช่วยแก้ปัญหาได้ดีมาก” น.ส.รสนากล่าว
จากนั้นเป็นวงเสวนา “พลังศาสนากับการฟันฝ่าวิกฤติโควิด-19” มีผู้นำอภิปรายได้แก่ พระครูสุนทรธรรมนิเทศก์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชนาธิปเฉลิม พระอารามหลวง อ.เมือง จ.สตูล ศาสนาจารย์ ดร.นพรัตน์ จันทร์ชนะ ประธานร่วมคณะกรรมการประสานงานคริสต์จักร จ.สงขลา นายการีม หมัดกาเซ็ม อิหม่ามมัสยิด จ.สตูล ดำเนินรายการโดย พระอธิการดุษฎี อังสุเมธางกูร เจ้าอาวาสวัดทุ่งไผ่ จ.ชุมพร ก่อนที่ช่วงสุดท้ายเปิดเวทีรับฟังข้อเสนอจากผู้เข้าร่วมทุกช่องทางอย่างคึกคัก
พระครูสุนทรธรรมนิเทศก์ กล่าวว่า ตอนนี้ในพื้นที่ระบาดหนัก อาตมาก็ถูกกักตัวอยู่ที่วัดจนถึงวันที่ 10 ต.ค.นี้ ทราบว่าโต๊ะอิหม่ามในพื้นที่ก็ต้องกักตัวเหมือนกัน เราพูดคุยและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันและกันทุกศาสนา ร่วมมือกับทางจังหวัด หน่วยราชการและองค์กรภาคประชาชนต่างๆ รวมถึงคนไทยในต่างประเทศมาตลอด โดยร่วมมือกันช่วยเหลือสังคมแบบไม่แบ่งแยกศาสนา อีกทั้งมีการใช้สื่อต่างๆ เพื่อให้สังคมเกิดพลังในการฟันฝ่าวิกฤติโควิด-19 ไปด้วยกัน
นายการีมกล่าวเพิ่มเติมว่า งานพหุวัฒนธรรมเราทำกันมาต่อเนื่องยาวนานในพื้นที่ พอเกิดโรคระบาดช่วงแรกสะดุดบ้าง เราก็ไปศึกษาหลักการศาสนา รวมถึงฟังผู้รู้โดยเฉพาะฝ่ายแพทย์แล้วปฏิบัติตาม จากนั้นริเริ่มกันใช้สมุนไพรมาป้องกันและรักษา ตอนนี้ทุกอย่างดำเนินต่อไปได้ เพียงเปลี่ยนแปลงตัวเองให้สอดคล้องกับวิถีใหม่ ด้านความร่วมมือกับผู้นำต่างศาสนาก็ยังดำเนินการได้ต่อไปเป็นอย่างดี แถมยังพบด้วยว่าการมาของโควิด-19 มีด้านดีที่อบายมุขหดหายลงไปมาก
ดร.นพรัตน์กล่าวเสริมว่า ปกติคริสเตียนจะรวมคนจำนวนมากนมัสการพระเจ้าวันอาทิตย์ในโบสถ์ เวลานี้เรานมัสการพระเจ้าออนไลน์ ถ้าไม่ขัดหลักศาสนาเราพร้อมปฏิบัติตามกติกา นอกจากนั้นก็แนะนำให้คริสต์ศาสนิกชนปรับตัวตามกฎเกณฑ์ทางสังคม แม้เวลานี้เรายังยึดมั่นปฏิบัติตามวิถีใหม่ พร้อมสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐปฏิบัติงานได้ดีขึ้น แม้จะมีคริสเตียนติดโควิด-19 จำนวนมาก แต่เราก็ใช้พลังศาสนาฟันฝ่าไปได้ และขอให้คนไทยทุกศาสนิกร่วมมือฟันฝ่าไปพร้อมๆ กัน