วันจันทร์ ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2564, 18.53 น.
“สมาคมการค้ายาสูบไทย” ชี้เครือข่ายลักลอบนำเข้าบุหรี่เติบโตอย่างไม่เกรงต่อกฎหมาย เผยมีการลำเลียงนำเข้าทั้งทางบก-ทะเล “สตูล-หาดใหญ่” พื้นที่หลักสินค้าเถื่อน ทำรัฐสูญเงินภาษีปีละ 3-4 พันล้านบาท วอนภาครัฐปราบปรามจริงจัง
6 กันยายน 2564 นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมการค้ายาสูบไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้รับการร้องเรียนจากร้านค้าเกี่ยวกับปัญหาบุหรี่หนีภาษี ทำให้ร้านค้าที่ถูกกฎหมายได้รับผลกระทบเป็น 2 ต่อ ทั้งปัญหาจากการจำหน่ายสินค้าไม่ได้ เพราะการล็อกดาวน์พื้นที่ ยังมีปัญหาบุหรี่เถื่อนที่เข้ามาเป็นจำนวนมาก แม้สถานการณ์โควิด-19 ระบาดหนักขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงต้นปี 2564 แต่ปัญหาบุหรี่เถื่อนกลับเติบโตและมีการลักลอบนำเข้าบุหรี่เถื่อนอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และไม่เคยล็อกหรือหยุดช่องทางการลักลอบบุหรี่เถื่อนเข้าประเทศได้เลย”
ก่อนหน้านี้ การยาสูบแห่งประเทศไทยได้เปิดเผยประมาณการบุหรี่เถื่อนในประเทศไทยช่วงปี 2563 ว่ามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 29 ขณะที่มีรายงานข่าวจากกระทรวงการคลังก่อนหน้านี้ประมานการณ์ว่ารัฐต้องสูญเสียรายได้จากการเก็บภาษีสรรพสามิตบุหรี่เถื่อนไปประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท
“การเติบโตของบุหรี่หนีภาษีแย่งรายได้ร้านค้าปลีกที่ขายถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสงขลา พัทลุง และสตูลที่มีร้านค้าบุหรี่ถูกกฎหมายประมาณ 8 พันราย แต่มีร้านขายบุหรี่เถื่อนจำนวนมากที่มีหน้าร้านเปิดขายบุหรี่เถื่อนอย่างเปิดเผย คนในพื้นที่ทราบกันดี แต่ทำอะไรไม่ได้” นางวราภรณ์ กล่าว
นางวราภรณ์ ระบุว่า ถ้าหน่วยงานรัฐยังปล่อยให้มีร้านค้าบุหรี่หนีภาษีท้าทายกฎหมายได้ต่อไปแบบในปัจจุบันนี้ ปัญหาบุหรี่หนีภาษีคงเลวร้ายลงไปอีก ซึ่งเราอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กอ.รมน. กองทัพภาคที่ 4 กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร ทัพเรือภาค 2 เอาจริงเอาจังกับการจับกุมผู้กระทำความผิดลักลอบนำเข้าและผู้ขายบุหรี่ที่ไม่เสียภาษี เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์เงินภาษีของรัฐ เงินภาษีของท้องถิ่น และรายได้ของร้านค้าที่ถูกกฎหมายในพื้นที่ ก่อนที่ผู้ค้าที่จ่ายภาษีอย่างถูกต้องจะล้มหายไปพร้อมกับสถานการณ์โควิดระลอกปัจจุบัน