จากนั้นก็เป็นคิวแต่งตั้ง รอง ผบ.ตร.-ผบก. ประมาณเดือนกันยายน ซึ่งที่น่าจับตาคงอยู่ที่เก้าอี้ รอง ผบ.ตร. ที่ว่าง 4 ตำแหน่ง จาก พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์, พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย และ พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง สามเก้าอี้เกษียณอายุราชการ บวกกับ รอง ผบ.ตร.ที่ขึ้นไปเป็น ผบ.ตร. แทน “ผบ.ปั๊ด” อีก 1 ราย ๐
เก้าอี้ ผบ.ตร. คนใหม่ ตอนนี้แคนดิเดตที่โดดเด่น ดูจะเหลือเพียง บิ๊กเด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.(มค.) นรต.38 เกษียณปี 2566 กับ บิ๊กรอย-พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.(ปป.) นรต.40 เกษียณปี 2567 ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่มีผลงานอย่างต่อเนื่อง บิ๊กรอย ผลงานยาเสพติดและค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลกำลังโดดเด่น ล่าสุดก็เข้าไปแก้ปัญหาค้ามนุษย์โรฮีนจา กว่า 50 คนที่ถูกทิ้งไว้บริเวณเกาะดง ห่างไปทางทิศตะวันตกของเกาะหลีเป๊ะประมาณ 8 ไมล์ อยู่ห่างจากฝั่ง อ.เมืองสตูลประมาณ 80 ไมล์ พื้นที่หมู่ 8 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล ส่วน บิ๊กเด่น หัวหน้าทีม ศปอส.ตร. หรือ PCT ก็ลุยงานปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมทั้งได้รับมอบหมายจาก ผบ.ปั๊ด ให้ดูแลความเรียบร้อยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ก็ทำได้อย่างดี แถมล่าสุดยังติดตามจับกุมชายสัญชาติลิทัวเนียที่ก่อเหตุฆาตกรรมสาวประเภทสอง อำพรางศพไว้ในห้องเก็บของ ภายในบ้านที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ๐
ส่วนเก้าอี้ รอง ผบ.ตร. ว่าง 4 ตำแหน่ง ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งตำรวจ กำหนดหลักเกณฑ์การแต่งตั้ง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นต้องดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่า 1 ปี และการคัดเลือกตั้งแต่ระดับจเรตำรวจแห่งชาติ และรอง ผบ.ตร.ลงมาถึงระดับ ผบก. ให้พิจารณาเรียงตามอาวุโส 33% ชัดเจน 1 ใน 4 เก้าอี้ แปะชื่อ พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร.อาวุโสลำดับที่ 1 เอาไว้ได้เลย ส่วนอีก 3 เก้าอี้ลุ้น อาวุโส+ความรู้+ความสามารถ มี ผู้ช่วย ผบ.ตร.ดำรงตำแหน่งมา 1 ปี ตามกฎ ก.ตร.ที่สามารถขึ้น รอง ผบ.ตร.ได้ทั้งหมด 9 ราย พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง (เกษียณปี 2568), พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช (เกษียณปี 2567), พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล (เกษียณปี 2574), พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง (เกษียณปี 2566), พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ (เกษียณปี 2569), พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข (เกษียณปี 2568), พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ (เกษียณปี 2569), พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ (เกษียณปี 2568) และ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล (เกษียณปี 2567)
ส่องผลงาน ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่โดดเด่น มีความเคลื่อนไหว มีข่าว มีคราว ทางสื่อ ทางสังคม แบบชาวบ้านได้ยินบ่อยหน่อย ก็มี บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ลงไปทำงานตามหน้างาน ตร. ทั้งการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือการทำโครงการ “Smart Safety Zone 4.0” รวมทั้งงานนโยบายที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล อย่างการแก้ปัญหาหวยเกินราคา ที่ บิ๊กโจ๊ก เดินหน้าปราบปรามผู้จำหน่ายสลากออนไลน์เกินราคา และนำภาพสลากที่ไม่มีอยู่จริง หรือหวยทิพย์ออกจำหน่ายประชาชน เช่นเดียวกับ บิ๊กต่อ-พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร.ก็มีงานต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อได้รับมอบหมายให้ไปคุมกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ก็ประสานงาน บิ๊กราญ-พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ลุยงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่กรุงเทพฯ มีผลงานออกมาแถลงให้ชาวบ้านได้รับรู้รับทราบกันตลอดเวลา ๐
บิ๊กกวาง-พล.อ.สัณทัศน์ นันทิภาคย์หิรัญ ผู้อํานวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) มอบนโยบายแก่สมาคมแม่บ้านองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ร่วมกับโรงพยาบาลทหารผ่านศึกใช้ศักยภาพของหน่วยออกให้การบริการทางการแพทย์ในเชิงรุก เพื่อจัดทีมเข้าให้บริการรักษาพยาบาลและบริการด้านสุขภาพให้ทั่วถึงแก่ทหารผ่านศึกนอกประจำการ ด้วยการจัดทําโครงการ ความห่วงใย ไร้พรมแดน ขึ้น เพื่อให้การดูแลรักษาทหารผ่านศึกและครอบครัวที่พักอาศัยในจังหวัดต่างๆ ได้มีโอกาสเข้าถึงการรักษาจากโรงพยาบาลทหารผ่านศึก โดยแพทย์เฉพาะทางและสหสาขาวิชาชีพ และเพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพของทหารผ่านศึกและครอบครัว ให้มีความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติตัว การดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันบรรเทาภาวะสุขภาพที่เป็นอยู่ หรือโรคที่อาจจะเกิดในอนาคต รวมทั้งเพื่อให้การดูแลทหารผ่านศึกและครอบครัวแบบองค์รวมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ นอกจากนี้ยังให้บริการซ่อมแซม จัดทําและจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่ทหารผ่านศึกพิการหรือทุพพลภาพ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีขวัญและกําลังใจในการดําเนินชีวิตต่อไป ๐
บิ๊กเฒ่า-พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ยังอุบเงียบไม่ตอบถึงบทสรุปโครงการเรือดำน้ำ ที่ยังสะดุดจากปัญหาที่ CSOC ยังไม่สามารถหาเครื่องยนต์ที่มีคุณลักษณะ และประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ MTU ของเยอรมนีมาได้ เพราะยังเหลือเวลาที่คณะกรรมการบริหารโครงการเรือดำน้ำ ที่มี เสธ.แจ๊ก-พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสด์ เสนาธิการทหารเรือ เป็นประธาน และเป็นหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทย ขีดเส้นไว้ 60 วัน แต่จากโจทย์ที่ตั้งน่าจะมีทางออกเดียวที่ไม่ทำให้ทุกฝ่ายเสียหาย และได้ประโยชน์ทั้งคู่ คือการปรับโครงการให้สอดคล้องกับปัญหา ต่อยอดจากสิ่งที่ริเริ่มไว้ และกองทัพเรือไทยจะยังได้เรือดำน้ำเข้าประจำการต่อไป ซึ่งอาจจะเป็นเรือดำน้ำมือสองชั้น Yuan เพื่อให้หน่วยและกำลังพล ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ในมิติใต้น้ำ แม้อาจจะไม่ใช่เรือดำน้ำมือหนึ่งอย่างที่ตั้งใจไว้ ๐
ศุกร์สุดสัปดาห์ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ในพื้นที่ จ.ลพบุรี จำนวน 7 หน่วยฝึก ใน ค่ายสมเด็จพระศรีนครินทรา 3 หน่วยฝึก ได้แก่ หน่วยฝึกทหารใหม่กองพันป้องกันฐานบิน, กองพันบินที่ 3, กองพันบริการ กองบริการ ศูนย์การบินทหารบก จากนั้นเดินทางไปยัง ค่ายภูมิพล เยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันบริการ กองบริการ ศูนย์การทหารปืนใหญ่, กองพันทหารปืนใหญ่ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ และเดินทางไปยัง ค่ายสิริกิติ์ เพื่อตรวจเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 712 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 71, กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 723 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 72 ผู้บัญชาการทหารบกได้เยี่ยมชมสถานที่และให้กำลังใจทหารใหม่ ครูฝึก ผู้ฝึก ที่ทุ่มเทการฝึก 6 สัปดาห์ ตามแนวทาง ครอบครัวเดียวกัน และกำลังอยู่ระหว่างการฝึกเฉพาะหน้าที่ตามความถนัดและความสามารถของแต่ละบุคคล
ในวันคล้ายวันสถาปนาโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ ครบรอบปีที่ 73 โดยในปีนี้โรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ กรมยุทธศึกษาทหารอากาศ ได้พิจารณามอบโล่รางวัลเชิดชูเกียรติ จักรพงษ์ และจารึกชื่อในทำเนียบศิษย์เก่าดีเด่นของโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ ให้แก่ บิ๊กป้อง-พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ นายทหารนักเรียนหลักสูตรเสนาธิการทหารอากาศ รุ่นที่ 38 เป็นศิษย์เก่าดีเด่นของโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ ประจำปี 2565 ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการเหล่าทัพ ซึ่งศิษย์เก่าของโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ นับเป็นอีกรางวัลในชีวิตที่ “บิ๊กป้อง” ได้รับ ก่อนเข้าสู่ช่วงเกษียณอายุราชการปลายเดือนกันยายนนี้.