เครือข่าย Save จะนะจากสตูล-พัทลุง ถึงหน้า UN ร่วมสมทบชาวจะนะรักษ์ถิ่น ทวงสัญญาหน้าทำเนียบ 13 ธ.ค.นี้ ยันแม้ถูกจับอีกกี่ครั้งก็ไม่ถอย ย้ำอุดมการณ์พร้อมเอาชีวิตเข้าแลก
เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นร่วมแถลงการณ์กับสมาคมต่างๆที่เดินทางมาสมทบกับชาวจะนะ โดยเมื่อเวลา 04.00 น. ที่ผ่านมาตัวแทนเครือข่ายจากจังหวัดสตูลเดินทางมาถึงบริเวณหน้า UN และเมื่อเวลา 09.00 น. เครือข่ายจากจังหวัดพัทลุงก็เดินทางมาถึงแล้วเช่นกัน
โดยวัตถุประสงค์หลักของเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นและเครือข่ายอื่นๆที่เดินทางมาสมทบยังคงยืนยันเช่นเดิม คือ เรียกร้องให้รัฐบาลหยุดโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะแล้วเริ่มดำเนินการศึกษา SEA แต่เดิมมี 3 ข้อเรียกร้อง คือ รัฐบาลต้องตรวจสอบศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ หรือ ศอ.บต. อีกครั้ง, รัฐบาลจะจัดให้มีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างครบถ้วน เพื่อให้มีข้อมูลทางวิชาการที่ถูกต้องประกอบการตัดสินใจเดินหน้าเกยยุติโครงการต่อไป, รัฐบาลต้องยุติการดำเนินการทั้งหมดไว้ก่อนจนกว่าจะดำเนินการตามข้อ 1 และ 2 แล้วเสร็จ และข้อสุดท้ายที่มีการเรียกร้องเพิ่มเติมคือ รัฐบาลต้องยุติการดำเนินคดีกับเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นทั้ง 37 คนที่เกิดจากการสลายการชุมนุมหน้าทำเนียบเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา
โดยเครือข่ายจากภาคใต้ที่เดินทางมาสมทบ ร่วมให้กำลังใจในวันนี้ ได้แก่ เครือข่ายสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย, สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนสอนศาสนาอิสลามภาคใต้, เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาสงขลา-สตูล, ภาคี save นาบอน ,P-move ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม และเครือข่ายอื่นๆ ซึ่งทุกเครือข่ายยืนยันว่าจะร่วมเดินทางไปทวงสัญญาจากรัฐบาล ที่ประตู 1 หน้าทำเนียบด้วยกันในวันพรุ่งนี้(13ธ.ค.64) พร้อมระบุว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่เป็นการกระทำแบบป่าเถื่อน จะทำอะไรก็อยากให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมเข้าทำประชาพิจารณ์ด้วย
ด้านนายเรียง สีแก้ว ที่ปรึกษาเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ยืนยันว่าพรุ่งนี้ เวลา 13.00 น. จะเดินเท้าไปให้ใกล้ทำเนียบที่สุด แต่เป้าหมายยังคงเป็นประตู 1 ทำเนียบรัฐบาล แม้จะถูกจับอีกกี่ครั้ง ก็พร้อมเอาชีวิตเข้าแลก เพราะอุดมการณ์ของชาวจะนะชัดเจนว่าพร้อมจะเอาชีวิตเข้าแลก พี่น้องจะนะไม่ใช่คนดื้อดึงหรือใช้ความรุนแรง พร้อมจะพูดคุยเจรจา แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการมาพูดคุยใด ๆ และหากจะพิสูจน์ความจริงใจ ให้ไปยกเลิกการดำเนินคดีทั้งหมดของชาวบ้านทั้ง 37 คนก่อน ถ้าไม่ทำเรื่องนี้เพื่อพิสูจน์ความจริงใจก็จะไม่คุยหรือเจรจาใดๆทั้งสิ้น