ประเด็นเด็ด 7 สี – จากกรณีเมื่อช่วงค่ำวานนี้เกิดเหตุชายคลุ้มคลั่ง ใช้จอบจามหัวชาวบ้าน ขณะขี่รถผ่านไปมาบนถนนเสียชีวิต ในอำเภอละงู จังหวัดสตูล ล่าสุดวันนี้ตำรวจต้องยกเลิกการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะเกรงชาวบ้าน และญาติที่โกรธแค้นจะรุมประชาทัณฑ์ ส่วนการตรวจปัสสาวะผู้ก่อเหตุไม่พบสารเสพติด ไปติดตามกับคุณไพศาล รัตนบรรเทิง
เป็นภาพขณะตำรวจช่วยกันห้ามชาวบ้าน และญาติเข้ารุมประชาทัณฑ์นายนัฐพล พัศระ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาที่เกิดอาการคลุ้มคลั่งให้จอบจามศีรษะนายปิติ ติ่งหะ อายุ 41 ปี ขณะขับรถจักรยานยนต์กลับมาจากซื้อขนมให้ลูก ๆ บนถนนเส้นทางละงู-ทุ่งหว้า อำเภอละงู จังหวัดสตูลเสียชีวิตคาที่ ในภาพจะเห็นว่า มีจอบยังปักอยู่ที่ศีรษะเลือดไหลนองเต็มพื้นที่ถนน สร้างความตกใจให้แก่ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ โดยเฉพาะลูกชายที่ร้องให้แทบขาดใจ
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายนัฐพล ได้เดินทางไปหาญาติที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งไม่ไกลกัน แล้วเกิดมีปากเสียงกันขึ้น ก่อนผู้ต้องหาเดินกลับบ้านด้วยความโมโห และหวาดระแวงว่าจะถูกทำร้าย จนไปพบจอบที่วางอยู่ข้างทาง จึงหยิบขึ้นมาดักทำร้ายคนที่ขี่รถผ่านไปมา โดยรถจักรยานยนต์คันแรกโชคดีสามารถขี่หลบไปได้ ส่วนรถคันที่ 2 เป็นของผู้ตาย ถูกเรียกให้จอดจนถูกทำร้าย
วันนี้ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของผู้ก่อเหตุ พบว่าเป็นบ้านชั้นเดียวไม่มีหน้าต่างประตู มีเพียงไก่ที่เลี้ยงไว้และสุ่มไก่ในบ้าน เพื่อนบ้านยังให้ข้อมูลว่า นายนัฐพล อยู่บ้านหลังนี้เพียงคนเดียว ส่วนแม่และน้องชายอาศัยอยู่อีกหมู่บ้าน พร้อมเล่าอีกว่า ก่อนหน้านี้นายนัฐพลเป็นคนนิสัยดี แต่หลังกลับจากเกณฑ์ทหาร เริ่มไปยุ่งกับยาเสพติดจนเกิดอาการหลอน บางครั้งนุ่งกางเกงในตัวเดียวเดินไป-มา และละหมาดบนถนน ส่วนสาเหตุคลุ้มคลั่งน่าจะขาดยาจากโรงพยาบาล หลังเกิดเหตุทำให้เธอและครอบครัวกลัว จนต้องปิดประตูหน้าต่างอยู่แต่ในบ้าน
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชาวบ้าน โดยเฉพาะญาติของผู้เสียชีวิตโกรธแค้น จนตำรวจสั่งยกเลิกการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะกลัวชาวบ้านไปรอรุมทำร้าย ส่วนการดำเนินคดีจากการตรวจปัสสาวะผู้ต้องหาไม่พบสารเสพติด พร้อมเร่งสอบปากคำพยานแวดล้อม และรอเอกสารของโรงพยายาลจากญาติว่าเป็นผู้ป่วยทางจิตจริงหรือไม่ เพื่อเป็นแนวทางดำเนินคดีต่อไป
เบื้องต้นตำรวจยัง ไม่แจ้งข้อหากับนายนัฐพล หลังสอบปากคำยังคงปิดปากเงียบ อ้างไม่รู้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น