กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เผยพบการติดเชื้อผสม 2 สายพันธุ์ในผู้ป่วยคนเดียวจำนวน 7 ราย จากการตรวจหาเชื้อคนงาน 200 คน ในแคมป์ก่อสร้างขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
นพ. ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยในการแถลงสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 วันนี้ (12 ก.ค.) ว่ากรณีดังกล่าวเป็นประเด็นที่น่าจับตาและลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นในหลายประเทศ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยทั้ง 7 ราย ยังอาการยังเป็นปกติอยู่ในขณะนี้
นพ. ศุภกิจกล่าวว่า จากการถอดรหัสพันธุ์กรรมเชื้อที่พบในผู้ป่วยกลุ่มนี้พบว่าตรงกับเชื้อสายพันธุ์อัลฟาและเดลตา
“มันเป็นสัญญาณว่า ถ้าเราปล่อยให้มี mixed infection (ติดเชื้อผสม) แบบนี้บ่อย ๆ เยอะ ๆ มันก็อาจจะเกิดลูกผสมที่เราเรียกว่า hybrid เกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาได้” นพ.ศุภกิจกล่าว
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตั้งเเต่ระหว่างวันที่ 1 เม.ย.-9 ก.ค. ได้ตรวจสายพันธุ์โควิด-19 ไปเเล้ว 15,210 ตัวอย่าง โดยประมาณ ส่วนใหญ่ยังเป็นสายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) 74% สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) 24% และสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) 1.7%
แต่หากดูเฉพาะสัปดาห์ที่แล้ว (3-9 ก.ค.) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครพบสายพันธุ์เดลตาเพิ่มมาเป็น 57% ส่วนในภูมิภาค 23% และภาพรวมทั้งประเทศพบสายพันธุ์อัลฟา 51.8% เดลตา 46.1% และเบตา 2.1% จึงจำเป็นต้องมีการปรับแนวทางฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้สอดคล้องกับการกลายพันธุ์ของไวรัส
“ภาพรวมทั้งประเทศ เป็นสายพันธุ์เดลตาประมาณ 46% เกือบครึ่งแล้วนะครับ” อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กล่าว
โดยพบแล้วในกรุงเทพฯ และอีก 60 จังหวัด เป็นที่น่าสังเกตว่าภาคใต้ก็พบก็เริ่มพบการระบาดของสายพันธุ์นี้ ทั้งสุราษฎร์ธานี ภูเก็ต นราธิวาส ตรัง พัทลุง และสตูล
นอกจากสายพันธุ์เดลตาในกรุงเทพฯ ยังพบผู้ติดเชื้ออีกจำนวนหนึ่งใน จ.อุดรธานี คือ 41 ราย รองลงมาคือ นครสวรรค์ 43 ราย ชลบุรี 32 ราย กำแพงเพชร 14 ราย เป็นต้น ส่วนสายพันธุ์เบตานั้น ยังคงกระจุกตัวอยู่ในภาคใต้ กว่า 84 ราย
“เราคาดการณ์ว่า (สายพันธุ์เดลตา) อีกไม่นานนะครับ ก็คงจะครองพื้นสายพันธุ์ในประเทศไทยเกือบทั้งหมด”
นอกจากนี้ ยังประเด็นที่น่าสนใจ คือ การพบผู้ป่วยรายหนึ่งใน จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นคนงานกลับมาจากประเทศไต้หวัน ซึ่งขณะกักตัวในสถานที่กักกันแต่ไม่พบเชื้อจากการตรวจหลายครั้ง แต่เมื่อกลับบ้านไปกลับพบติดเชื้อสายพันธุ์เบตา ซึ่งจากการถอดรหัสพันธุกรรมไม่พบว่าตรงกับรหัสที่พบในไต้หวัน รวมถึงภาคใต้ของไทยด้วย ซึ่งต้องสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป