เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ยะลา – โฆษก ศอ.บต.แถลงเตือนคนไทยในมาเลเซียให้เดินทางกลับประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากต้องการความช่วยเหลือให้ติดต่อหน่วยงานของกระทรวงการต่างประเทศ 3 แห่งในมาเลเซีย ด้านเลขาธิการ ศอ.บต.เร่งช่วยเหลือแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
นายธีรพงศ์ เพชรรัตน์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ในฐานะโฆษก ศอ.บต. เปิดเผยถึงข้อมูลการให้บริการจองฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่า มีประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ความสนใจในการลงทะเบียนจองรับวัคซีนโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” โรงพยาบาลในพื้นที่ ผ่าน อสม.และอื่นๆ โดย จ.ยะลา มีผู้ลงทะเบียน 20,677 คน จากประชากร 335,452 คน จ.ปัตตานี มีผู้ลงทะเบียน 79,436 คน จากประชากร 520,138 คน จ.นราธิวาส มีผู้ลงทะเบียน 52,927 คน จากประชากร 278,977 คน จ.สงขลา มีผู้ลงทะเบียน 445,448 คน จากประชากร 1,438,040 คน และ จ.สตูล มีผู้ลงทะเบียน 53,450 คน จากประชากร 226,868 คน (ข้อมูลอ้างอิงจากเพจสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ ณ วันที่ 3 มิ.ย.64)
ทั้งนี้ โฆษก ศอ.บต.ยังได้เปิดเผยอีกว่า พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ฝากเตือนคนไทยในมาเลเซียที่เดินทางกลับประเทศไทยให้ผ่านช่องทาง และวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมาย หากมีข้อขัดข้องหรือปัญหาใดๆ ให้ประสานขอรับการช่วยเหลือจากหน่วยงานกระทรวงการต่างประเทศในมาเลเซียทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน และสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง รัฐเกดะห์ ใกล้ที่ไหน สะดวกที่ไหนไปที่นั่น ไม่เฉพาะผู้ที่มีเอกสารถูกต้องเท่านั้น แม้แต่ผู้ที่เข้าไปอย่างผิดกฎหมายหรือไม่มีเอกสารใดๆ สามารถลงทะเบียนกลับประเทศไทยอย่างถูกต้องได้ทุกราย เพียงแต่ต้องมาแสดงตัวเพื่อยืนยันตัวตน และยื่นคำร้องขอหนังสือสำคัญประจำตัวที่สถานทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ เพื่อนำไปเป็นหลักฐานการจ่ายค่าปรับกับตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย ซึ่งหากดำเนินการข้างต้นจะทำให้ไม่ถูกนายหน้าหลอกลวงด้วยการเรียกรับเงินในจำนวนที่สูง และไม่ต้องเสี่ยงถูกจับกุมจากทางการมาเลเซียอีกด้วย
ขณะที่ ศอ.บต.จะผนึกกำลังร่วมกับทุกภาคส่วน เร่งช่วยเหลือแรงงานจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดจากโควิด-19 ให้มีงานทำ โดยล่าสุด ศอ.บต.ได้จัดส่งกลุ่มแรงงานจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวนกว่า 30 คน เดินทางไปยัง จ.กาญจนบุรี เพื่อไปทำงานที่บริษัท ไทยฟู๊ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นโรงงานชำแหละชิ้นส่วนไก่ อยู่ที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ก่อนหน้านี้ ศอ.บต.ได้ประสานงานเพื่อจัดส่งแรงงานไปทำงาน และได้โควตามา 1,500 คน รายได้เฉลี่ยวันละ 500-700 บาท โดยก่อนเดินทางไปทำงาน ศอ.บต.จัดการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่การเป็นลูกจ้างตามกฎหมาย และความรู้ด้านการป้องกันการปฏิบัติในระหว่างอยู่ในพื้นที่เสี่ยงหรือในชุมชนต่างๆ เพื่อให้ห่างไกลจากโรคโควิด-19 ซึ่งถือเป็นการตอบโจทย์ในการขยายพื้นที่รองรับแรงงานจากจังหวัดชายแดนภาคใต้สู่การมีงานทำ และมีรายได้ นับเป็นการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ว่างงานต่อไป
นอกจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเกษตรกรที่ปลูกฟักทองในพื้นที่ จ.สงขลา ไม่สามารถกระจายผลผลิตไปสู่ตลาดได้ จนทำให้เกิดการตกค้างของฟักทองเป็นจำนวนมาก ดร.ชนธัญ แสงพุ่ง รองเลขาธิการ ศอ.บต. ได้มีการประสานงานร่วมกับมูลนิธิรวมพัฒน์ และกลุ่มนางฟ้าใจบุญ รวมถึงเพจอาสา จัดทำโครงการช่วยเหลือเกษตรกรในการกระจายผลผลิตออกสู่ตลาดให้มากที่สุด โดยมีการเปิดรับสมัครแม่ค้าอาสาที่สนใจ และต้องการขายของออนไลน์ ให้จัดซื้อฟักทองจากเกษตรกรในพื้นที่เพียงกิโลกรัมละ 7 บาท (จากราคาปกติกิโลกรัมละ 24 บาท) เพื่อนำไปจำหน่ายต่อให้ผู้บริโภคที่สนใจรับซื้อในราคาถูก โดยไม่ต้องสต๊อกสินค้า ทางกลุ่มพร้อมจัดส่งให้ถึงมือของผู้บริโภคในราคาพิเศษอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ หากท่านใดสนใจ และต้องการเข้าร่วมโครงการสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจข่าว ศอ.บต. หรือลงทะเบียนรับรหัสสมาชิกได้ที่ “แม่ค้า อาสา”